ออสการ์ ชินด์เลอร์ แห่งวงการแพทย์ คุณหมอ Eugeniusz Sławomir Łazowski (อ่านภาษาโปลไม่ออกครับ ขอเรียกว่า "ลาโซสกี้" นะครับ เอาไว้ปลายปีหาแฟนเป็นสาวโปลได้จะมาอ่านที่ถูกให้ฟัง)
สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามที่มีผู้เสียชีวิตมากมายและในส่วนหนึ่งไม่ได้มาจากการสู้รบ แต่เกิดจากการใช้แรงงานเชลยศึก ความอดอยาก โรคระบาดและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ชาวยิวถือว่าประสบเคราะห์กรรมที่หนักหนาสาหัสมาก มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในค่ายกักกันมากมาย โดยค่ายกักกันที่ชื่อดังที่สุดคือ เอ๊าชวิทช์ ก็อยู่ที่พรมแดนโปแลนด์นี่เอง
ฉากหนึ่งของสงครามคือ นายทุนใหญ่ของกองทัพนาซี ออสการ์ ชินด์เลอร์ ได้ช่วยชีวิตชาวยิวด้วยกันโดยให้ชาวยิวมาทำงานในโรงงาน โดยส่งชื่อชาวยิวให้กองทัพส่งเข้ามาในโรงงานของตน แทนที่จะไปเป็นแรงงานสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เรียกรายชื่อนั้นว่า รายชื่อของชินด์เลอร์ ที่ฮอลลีวูดนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์
แล้วเรื่องราวของลาโซสกี้เป็นอย่างไร
คุณหมอลาโซสกี้ เกิดและเติบโตจนจบแพทย์ที่โปแลนด์ ตอนที่เขาจบการศึกษาเป็นช่วงที่เกิดสงคราม ลาโซสกี้ก็ถูกเกณฑ์เป็นนายร้อยหนุ่มแห่งกองทัพโปล แต่ทว่าอย่างที่ท่านทราบกองทัพโปลพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ทหารแตกพ่าย คุณหมอลาโซสกี้เข้าร่วมกับขบวนการใต้ดินเพื่อต่อต้านนาซีเยอรมัน ทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งเพราะตอนนั้นแพทย์สนาม แพทย์ในสงครามหายากมาก คุณหมอส่วนใหญ่ลี้ภัยไปประเทศที่เป็นกลาง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
คุณหมอลาโซสกี้ ทำงานคอยช่วยผู้ลี้ภัย ผู้ที่ถูกทหารนาซีข่มเหง ทหารนาซีเกณฑ์คนโปลและชาวยิวไปเข้าค่ายแรงงานอย่างต่อเนื่อง และส่วนมาก ... ไม่ได้กลับมา
มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น...ที่ทำให้ลาโซสกี้มีความคิดไปไกล...
คุณหมอ Stanislaw Matulewicz เพื่อนของลาโซสกี้ ได้ค้นพบว่าหากเขาฉีดเชื้อ Proteus OX19 เข้าร่างกายมนุษย์ มันจะไม่ทำให้คนคนนั้นเจ็บป่วยหรือเกิดโรคแต่ว่า จะตรวจพบการติดเชื้อไทฟัสผลเป็นบวก !!!
ไทฟัส ไข้รากสาดใหญ่ การติดเชื้อริคเก็ตเซีย หนึ่งในโรคระบาดที่น่ากลัวที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมันนั้นกลัวโรคติดเชื้อมาก บทเรียนจากหลายๆสงครามในอดีตที่เกิด คู่สงครามไม่ได้แพ้จากการสู้รบแต่แพ้จากโรคระบาด จำกาฬโรค อหิวาห์ สงครามไครเมียและ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ได้ไหมครับ
เพื่อนของคุณหมอ มาตูลวิช คนหนึ่งจากค่ายแรงงานในโรงงานผลิตเหล็กมาบอกว่าเขายินดีทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ต้องเข้าไปอยู่ในค่ายนรกนั้นอีก มาตูลวิชจึงฉีดเชื้อ Proteus ox19 ที่ตายแล้ว เข้าร่างกายเขา เมื่อนาซีเยอรมันมาเกณฑ์คนกลับไป ทางกองทัพมีการตรวจเลือดหาการติดเชื้อไทฟัส .. ได้ผล นาซีเชื่อว่าเขาติดเชื้อไทฟัสและไม่พาเขาเข้าค่ายแรงงานอีกเลย
ผมเชื่อว่านาซีเยอรมันคงไม่มานั่งซักประวัติ ตรวจร่างกาย วินิจฉัยแยกโรคอย่างแน่นอน คงใช้การตรวจที่เรียกว่า การตรวจคัดกรอง "screening test" และการตรวจนี้จะเป็นผลบวกกับคนที่ได้รับการฉีดเชื้อของมาตูลวิช และแน่นอน นาซีไม่เสี่ยงนำคนผลการตรวจเป็นบวกไปเข้าใกล้ชิดตัวเองแน่ๆ และนาซีเยอรมันก็กลัวการติดเชื้อจนกว่าจะลงไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาปล่อยให้หมอท้องถิ่นนั้นจัดการ มาตูลวิชกับลาโซสกี้สบโอกาสได้ที
ลาโซสกี้ก็จัดการเลย ฉีด "Proteus" ที่ตายแล้วให้กับคนยิว คนโปล ในโปแลนด์โดยเฉพาะรอบๆโรงงานเหล็ก เมื่อส่งตัวอย่างให้กับหมอเยอรมัน หมอชาวเยอรมันหวาดกลัวมาก ไม่ให้คนกลุ่มนี้เข้าไปในโรงงานปะปนกับชาวเยอรมัน และให้ไปอยู่ในหมู่บ้านที่ประกาศเป็นเขตกักกันโรค
เขตกักกันโรคมากขึ้นเรื่อยๆ คนมากขึ้นเรื่อยๆ คนถูกส่งเข้าโรงงานน้อยลง นาซีเยอรมันก็สงสัยส่งคนมาตรวจ เช่นกันคุณหมอทีมนี้ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับหมู่บ้านโรคระบาด ลาโซสกี้ทราบดีก็ไปตั้งบ้านรับรองคณะผู้ตรวจที่นอกหมู่บ้าน จัดสรร ข้าวปลาหมูเห็ดเป็ดไก่ ผลหมากรากไม้ทั้งกัญชงกัญชา เพียบ...เต๊งตะล่ะเล้งเตงเตร่ง
ก็เลยตกลงกันว่า ตรวจแต่เลือดแล้วกัน ผู้ตรวจสอบก็เลยโอเค ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผู้ตรวจกลับไปรายงานท่านฟือเรอร์ว่า ป่วยจริง...
หากพิสูจน์ได้ว่า..ลาโซสกี้ ช่วยเหลือแรงงานชาวยิวโปล รับรองหัวหลุดจากบ่าแน่ๆ ..แต่ลาโซสกี้ก็ยังใช้อุบายนี้ต่อไป ชาวบ้านร้านตลาด คนโปล คนยิว ได้มาอยู่ในหมู่บ้านควบคุมโรคที่นาซีแค่มองดูห่างๆ ไม่เข้ามายุ่ง
แต่ความลับไม่มีในโลก....
ใกล้สิ้นสุดสงคราม เยอรมันจนแต้มอย่างมาก จำต้องอาศัยแรงงานและทรัพยากรทั้งหมดโดยเร็ว ศึกทางตะวันออกกับโซเวียตก็พ่ายแพ้ ศึกทางตะวันตกนั้น พญาอินทรีอเมริกาก็เข้ารุมเร้า พันธมิตรอิตาลีก็ยังช่วยตัวเองไม่รอด
หมู่บ้านกักกัน ที่ตอนนี้ขยายขนาดเป็นเมือง เริ่มถูกสงสัยว่า ทำไมป่วยตั้งมากมายตรวจเลือดทีไรก็ป่วย จึงตรวจสอบอีกครั้งก็คิดว่าพวกเขาถูกหลอก การทดสอบเป็นผลบวกปลอม และใครเป็นคนทำจึ้น ทุกรายชื่อผู้ป่วยรับรองมาจาก ยูจีน ลาโซสกี้ !!!
เกสตาโปไม่ปล่อยเขาไว้แน่ๆ เริ่มออกตามล่าคุณหมอ และสั่งให้ทำลายหมู่บ้านกักกันนั้น คุณหมอได้รับการช่วยเหลือจากขบวนการใต้ดินให้หลบหนีไปอเมริกา และกองทัพแดงโซเวียตก็ประชิดหมู่บ้านเข้ามา ปัญหาอยู่ที่มาใครจะเข้าถึงคุณหมอและเหล่าผู้ติดเชื้อ "ไทฟัส" ได้ก่อนกัน
เปรี้ยง....!!! เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นจากหลุมหลบภัยกลางกรุงเบอร์ลิน วันที่ 30 เมษายน 1945
ดังขึ้นก่อนที่เกสตาโปและกองทัพนาซีจะเข้าบดขยี้หมู่บ้านกักกันโรคอันลือลั่นนั้น เป็นอันสิ้นสุดของอาณาจักรไรซ์ที่สาม ท่านผู้นำ และนาซีเยอรมัน รวมทั้งจบสงครามโลกครั้งที่สองในฝั่งยุโรป
หลังจากสงครามสิ้นสุด คุณหมอย้ายไปอยู่อเมริกา ศึกษาต่อและท้ายสุดเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยอิลินอยส์ และได้รับการยกย่องจากรัฐบาลอิสราเอลว่าเป็นหนึ่งในคนสำคัญที่ช่วยให้ชาวยิวมากมายรอดพ้นจากการถูก ... ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น