21 กุมภาพันธ์ 2561

DIETFITS

การศึกษา DIETFITS หาความแตกต่างว่าการกินอาหารสุขภาพแบบไขมันต่ำ หรือ คาร์บต่ำ อันไหนลดน้ำหนักได้มากกว่ากัน อ่านดูแล้วการศึกษานี้ทำออกมาเพื่อพิสูจน์ความจริงเชิงวิชาการ ไม่ได้มุ่งหวังให้นำมาใช้จริงแต่อย่างใด เพราะการควบคุมอาหารโดยนักกำหนดอาหาร การเข้าเรียนหลักสูตรต่างๆอย่างเคร่งครัดตลอดการรักษา การติดตามเฝ้าระวังผลข้างเคียง การวัดสัดส่วนร่างกายโดยใช้เครื่องวัดมวลกระดูกและไขมัน การวัดพลังงานโดยวัดคาร์บอนไดออกไซด์ มันทำไม่ได้หรอกในชีวิตจริง แต่ว่าเมื่อออกแบบการทดลองให้รัดกุมมากๆแบบนี้คำตอบมันจะชัดเจน
ขอสรุปแบบชาวบ้านๆนะ
1. ผู้วิจัยคัดคนมา 607 คน เป็น หญิงชายพอๆกัน อายุประมาณ 40 เป็นคนขาวและคนท้องถิ่นอเมริกาเสียส่วนมาก ชาวเอเชียน้อย และน้ำหนักตัวประมาณ 90 กิโลกรัมนะครับ ดัชนีมวลกาย 33 ถ้าท่านน้ำหนักน้อยๆ หวังจะได้ผลดังงานวิจัยนี้อาจจะยาก โดยเมื่อติดตามไปครบสิบสองเดือน พบว่ามีคนออกจากการศึกษา เกือบ 120 คน เท่าๆกันฝั่งละ60คือประมาณ 20% เชียวนะ ขนาดมีคนติดตามเคร่งครัด
2. ก่อนจะเข้าสู่การเรียนอาหารโดยนักกำหนดอาหาร ต้องผ่านด่านหินด่านแรก คือ ต้องฝึกกินให้ได้ตามกำหนด ห้ามวอกแวก ออกกำลังกาย รายงานผล ตลอดหนึ่งเดือนให้ผ่านก่อน ไม่ผ่านก็ตกรอบไป ผ่านแล้วค่อยมาคิด การรายงานผลเขาคิดตั้งต้นคือ กลุ่มละ 300 คนเลียนแบบชีวิตจริงที่เรียกว่า intention to treat แต่เมื่อตารางแสดงผล เป็นระยะๆ เราก็จะเห็นว่า หากถ้าติดตามการศึกษาเคร่งครัดผลจะเป็นอย่างไร เทียบกับกลุ่มแรกๆที่รวมทั้ง ทนไม่ไหวอยู่ด้วย
3. การปรับอาหารจะค่อยๆปรับอาหารจนได้ขนาด ไขมัน หรือ คาร์บเท่าที่ทนได้ ของแต่ละกลุ่ม กลุ่มที่ไขมันต่ำเริ่มที่ พลังงาน 35% ลดลงมาเหลือ 25% แน่นอนจะได้พลังงานจากคาร์บเพิ่มจาก 45% เป็น 50% (แต่ปริมาณจะเพิ่มมากเพราะคาร์บให้พลังงานน้อยกว่า) ไขมันที่ใช้มีไขมันอิ่มตัวน้อยมากนะครับ เรียกว่าใช้แต่ของดีเลย
4. ส่วนกลุ่มคาร์บต่ำ จะค่อยๆปรับคาร์บลดลงจาก 45% เหลือ 30% ในทางกลับกันก็จะเพิ่มพลังงานจากไขมัน 35% เป็น 45% คาร์บที่ใช้ก็เป็นคาร์บที่ดัชนีน้ำตาลต่ำ ไม่มีน้ำตาลส่วนเกิน ไม่มีของหวาน
5. โปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินเกลือแร่ คำแนะนำต่างๆ ได้รับอย่างเป็นมาตรฐานเท่ากันทั้งสองกลุ่ม ด้วยเกณฑ์ทั้งหลายที่ค่อนข้างรัดกุมจะทำให้การประยุกต์ใข้ ทำได้ยาก มีการวัดเรื่องฮอร์โมน วัดค่าทางเมตาบอลิกต่างๆ รวมทั้งแบ่งกลุ่มแบบพันธุกรรม ว่าเป็นคนกลุ่มพันธุกรรมแบบการใช้พลังงานและการตอบสนองต่ออาหารแบบต่างๆเป็นอย่างไร
6. ผลที่ได้เมื่อครบหนึ่งปี พบว่าทั้งสองกลุ่มน้ำหนักตัวลดลง ประมาณ 5 กิโลกรัมเท่าๆกัน รอบเอว มวลไขมัน ลดลงพอๆกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่พันธุกรรมเป็นอย่างไร การหลั่งอินซูลินในตัวเป็นอย่างไร ไม่ต่างกัน แต่ละมีต่างกันอยู่หนึ่งอย่างคือกลุ่มกินไขมันต่ำนั้น ไขมันในเลือดจะลดลงมากกว่ากลุ่มคาร์บต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
7. ในการศึกษาที่ตัดตัวกวนและควบคุมต่างๆแบบนี้ ร่วมกับคิดย่อยว่า เมตาบอลิซึ่มและการหลั่งอินซูลินและพันธุกรรมต่อการเผาผลาญอาหารที่ต่างกัน มีผลต่อการจัดการอาหารแบบไขมันหรือคาร์บต่ำหรือไม่ คำตอบคงชัดเจนว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน
มานำเสนอคร่าวๆให้ได้ถกเถียงกัน เป็นการศึกษาที่น่าสนใจดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น