19 กุมภาพันธ์ 2561

การขริบกับการป้องกันโรค

"..ขริบเลยขริบเลย ชั้บๆๆ ขริบให้ขาดเลย ชั้บๆๆ อย่าไปเสียใจ ร้องไห้อยู่เลย.."  การขริบช่วยลดโอกาสการเกิดการติดเชื้อ เอชพีวีแห่งมะเร็งปากมดลูก และ ลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวี วันนี้เลยมานำเสนอเกร็ดความรู้ที่ไม่รู้ไม่ได้ !!!

  เป็นที่แน่นอนสำหรับหลักฐานที่ชัดเจนเรื่องพบการติดเชื้อเอชพีวี ที่พบน้อยกว่าในชายที่ขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายแล้ว มะเร็งปากมดลูกในหญิงที่คู่สัมพันธ์ขริบแล้ว (ก่อนจะซั่มนะ) และมะเร็งของอวัยวะเพศชายก็พบน้อยกว่าเช่นกัน ในเวลาต่อมาในยุคของเอชไอวี พบว่าชายที่เสี่ยงพอๆกันนั้น ชายที่ขริบจะมีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่า แต่หลักฐานเรื่องเอชไอวีนั้นไม่ชัดเจนและตรงประเด็นเหมือนมะเร็งปากมดลูก
  แต่กระนั้น องค์การอนามัยโลกก็ได้นับการขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นหนึ่งในหลายๆกลยุทธ์ที่จะลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวี (การศึกษาจะทำในเพศสัมพันธ์ชายหญิงนะครับ และศึกษาในผู้ใหญ่ที่ขริบ เอ๊ะ... เดี๋ยวประเด็นนี้จะอธิบายอีกที)

  มีการตั้งข้อสมมติฐานและพิสูจน์บางส่วนแล้วเรื่องทำไมขริบจึงติดเชื้อน้อยกว่า คำอธิบายต้องอาศัยความรู้ทางกายวิภาคของอวัยวะเพศชายสักเล็กน้อย เรามาทบทวนเรื่องเจ้าปู๋กันนิดนึง

  เจ้าปู๋นั้นขณะเรียบร้อยอ่อนโยน ผิวหนังส่วนที่หุ้มเจ้าปู๋จะยาวกว่าลำตัวและจะพับไปสิ้นสุดที่ส่วนคอของเจ้าปู๋ ใครนึกไม่ออกก็กลับไปทบทวนที่บ้านเย็นนี้  รอยต่อส่วนที่พับนั้นมักจะเป็นตำแหน่งเดิมเมื่อชายคนนั้นเจริญเติบโตเต็มที่ เมื่อผิวหนังพ้นรอยพับไปความแข็งแรงและชนิดของเซล จะไม่เหมือนผิวหนังภายนอก เพราะไม่ค่อยได้สัมผัสแดดลมสักเท่าไร
  นอกจากชั้นเคราตินของผิวหนังที่ต่างกัน ยังมีเซลชนิดหนึ่งที่พบในผิวหนังอ่อนนุ่มคล้ายเยื่อบุผิวอย่างเช่นกระพุ้งปากด้านใน เรียกว่า Langerhan's cell   คราวนี้มันก็มีความจริงที่ว่า เจ้าเชื้อไวรัสเอชไอวีและเอชพีวี มันจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง Langerhan's cell (ทาง CXCR4) นี้ด้วย นอกเหนือจากรอยฉีกขาเของเนื้อเยื่อตามปกติแล้ว

   ในคนที่ขริบน้องปู๋แล้ว  ใบหน้าและลำคอของน้องปู๋จะออกมาเชยชมรับลมรับแสงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เคราตินมันหนาขึ้น ความแข็งแรง (ของเยื่อบุผิวนะ ไม่ใช่แข็งแรงแง่อื่น) เพิ่มขึ้น และ Langerhan's cell ลดลง โอกาสติดเชื้อ HPV และ HIV ก็ลดลง สำหรับตัวเลขมันจะมาจาก meta analysis ที่มีข้อกำหนดเฉพาะ ไม่สามารถใช้ได้ในภาพรวมทั้งหมด ไม่ได้ยกมาให้ใครสนใจไปค้นเพิ่มได้นะครับ

  แต่ไม่ได้หมายความว่า  ถึงน้องปู๋ของคุณจะกร้านแดดกร้านลมเพียงใด จะทนทานถึงขนาดไม่สวมถุงยางได้ เพราะการพบปะกันแต่ละครั้งของน้องปู๋และน้องจิมมี่ก็มักจะมีรอยแผลเกิดขึ้นเสมอ ระดับฉีกขาดที่ตามองไม่เห็น ต่อให้นุ่มนวลสุภาพหรือห้าวหาญปานพายุกระหน่ำก็ตาม
  ถามว่าประเด็นใดสำคัญกว่า ก็ต้องยืดอกพกถุงอยู่แล้ว...ใช้ด้วยนะจ๊ะ อย่าพกเอาไว้อุ่นใจ ถุงยางอนามัย ไม่ใช่เครื่องราง

  คราวนี้ในบางศาสนาจะมีการขริบน้องปู๋ตั้งแต่เด็ก แต่ข้อมูลว่าการขริบตั้งแต่เด็กจะมีประโยชน์เหมือนกับการขริบเมื่อโตแล้วหรือไม่ อันนี้ไม่มีข้อมูลนะครับ และในกลุ่มชายรักชาย ก็ไม่ได้มีข้อมูลตรงนี้เหมือนกับคู่สมคุณปู๋และคุณจิมมี่
  แต่ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการในประเทศที่ การป้องกันโดยถุงยางและการให้ยาก่อนการติดเชื้อทำได้ยาก ...มันจะมีประเทศไหนไม๊ล่ะ..ด้วยเหตุผล ทำครั้งเดียว คุ้มค่า ช่วยกันมะเร็ง ช่วยลดโอกาสติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หลายอย่าง ดูแลรักษาง่าย

  อีกหน่อยเวลาสาวๆจะเลือกคู่ครองนอกจาก นิสัยใจคอ หน้าตา หน้าที่การงาน อาจต้องมาดูด้วยว่า ชายหนุ่มคนนั้น "ขริบ" แล้วหรือยัง เรียกว่าถ้าผ่านการขริบมาแล้วจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษเลยทีเดียว

ที่มา
J Fam Plann Reprod Health Care 2009 35: 5-7
Nature Med 1997;3:1369-75.
BMJ2000;320:1592•4
WHO.int : male circumcision on HIV infection

เครดิตภาพ : afromum.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น