04 มกราคม 2561

แนวโน้มว่าการบริโภคบุหรี่ยาสูบจะลดลง

ผมเห็นข่าวนี้เด้งขึ้นมาในทวิตเตอร์ จึงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อสิ้นปีก็มีข่าวแบบนี้ออกมาจาก BBC เช่นกัน บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่จะเปลี่ยนแนวการผลิตและการตลาด ใครเห็นข่าวทีแรกคงคิดว่าข่าวปลอมหรือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด เหมือนข่าวการปิดตัวของคู่สร้างคู่สม ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิด แต่ผมว่ามันจริงนะ บทความนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัว เนื่องจากติดตามและศึกษาเรื่องบุหรี่มานาน
แม้สินค้ายาสูบจะยังทำเงินมหาศาลในปัจจุบัน แต่แนวโน้มว่าการบริโภคบุหรี่ยาสูบจะลดลงในอนาคต เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับภัยจากบุหรี่มากขึ้น จากวันที่ผมเรียน เรารู้จักวิธีหักดิบและยาไม่กี่ตัวแต่เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากมายที่เป็นทางเลือก
การสัมภาษณ์ของ BBC กล่าวว่าแม้ทางบริษัทจะเริ่มเบนเข็มมาทางผลิตภัณฑ์ทางเลือก แต่ยาสูบก็ยังเป็นสิ่งที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้ผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่ รวมทั้งทำให้ธุรกิจยาสูบยังเดินต่อไป
หลายปีที่ผ่านมา เรารณรงค์เพื่อหนีควัน...ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ลดอันตรายจากควันออกมามากขึ้น ทางบริษัทผู้จำหน่ายบุหรี่ก็มีผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เช่นกัน แต่ว่าปริมาณผู้เสียชีวิตและโรคจากการสูบบุหรี่ไม่ได้ลดลงมากนัก สาเหตุอีกอย่างคือ นิโคติน
แม้นิโคตินจะไม่ได้เกิดอันตรายเท่าควันเผาไหม้ แต่มันก็ทำให้เรา "ติด" อุปสรรคสำคัญของผู้ที่ติดคือ เลิกนิโคตินได้ยาก ก่อนหน้านี้เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์ชดเชยนิโคตินทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ heat not burn แต่ก็ยังนำส่งนิโคตินอยู่ดี
จนเมื่อ US FDA และ Tobacco Control ได้ออกนโยบายที่จะลดปริมาณนิโคตินของบุหรี่มวน และอาจมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดควัน และ ...และ...มีนิโคตินลดลง มีการจำกัดปริมาณนิโคตินอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและมาใช้ในการเลิกบุหรี่เผาไหม้
แนวทางนโยบายออกมาคาบเกี่ยวช่วงสิ้นปีและปีใหม่ กับคณะทำงานใหม่แนวทางใหม่ ในปีนี้จะมีการประชุมใหญ่เรื่องยาสูบขององค์การอนามัยโลก เราคงได้เห็นทิศทางมากขึ้น
หมายความว่าความรู้ที่ผมมีอยู่คงจะเปลี่ยนไป แนวทางการดูแลรักษาและตัดการที่เราเคยรู้มาอาจต้องเปลี่ยน ฐานข้อมูลหลั่งไหลออกมามากมายในแต่ละวันแต่ละเดือน การกำหนดนโยบายทางการค้า กฎหมายและสังคมต้องเปลี่ยนอย่างแน่นอน
เมื่อนโยบายนี้ออกมา สิ่งที่ดีที่สุดคือ เลิกใช้นิโคติน เลิกใช้ควัน ไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ และจัดการลดอันตรายนักสูบที่ยังเลิกไม่ได้ ในอนาคตเราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ ว่าบุหรี่มวนคงจะลดลง ผลิตภัณฑ์ทางเลือกในรูปแบบต่างๆจะออกมามากขึ้น และสุดท้ายอาจจะมาแทนที่บุหรี่มวนสักวัน
เหมือนอย่างการถือกำเนิดอีบุ๊ค วารสารออนไลน์ ที่วันหนึ่งมันก็มาแทนหนังสือเล่ม การสตรีมหนังออนไลน์ที่ทำให้ธุรกิจหนังแผ่นล่มสลาย ในอนาคตสิ่งที่มาแทนใบยาสูบจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เราอาจต้องเรียนรู้ใหม่ เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากยาสูบ ความเสี่ยงต่างๆ จะลดลงหรือไม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจะเกิดผลดีหรือเสียอย่างไร มาตรฐานการสูบยาสูบที่เรียกว่า packyears จะต้องเปลี่ยนแปลงเป็นอะไร ต่อไปถ้าจะบอกว่าใครสูบบุหรี่และเสี่ยงมากกว่ากันอาจไม่ได้วัดที่ปริมาณและตัวเลขอีกแล้ว อาจต้องสร้างสมการมาคำนวณความเสี่ยงจากการสูบสารใหม่ๆและนิโคตินแบบใหม่
สิ่งต่างๆเหล่านี้คงเกิดขึ้นแน่ๆในอนาคต คิดว่าข่าวนี้คงไม่ใข่ข่าวลวงข่าวหลอก แต่จากการติดตามความเคลื่อนไหวและศึกษามานับสิบปี ผมคาดการณ์ว่า จุดเปลี่ยนน่าจะอยู่ในยุคสามถึงสี่ปีนี้ และในอนาคตอีกร้อยปี คนรุ่นหลังอาจจะเห็นบุหรี่แค่ในพิพิธภัณฑ์
ทางบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบ ได้ขยับตัวมาสักพักแล้ว ข่าวนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นของจริง ทิศทางจริงในอนาคต
สำหรับคนที่สนใจผมทำลิงค์แหล่งข่าวมาให้ ย้ำว่าแหล่งข่าวนะครับ ไม่ได้ evidence based จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เมื่ออ่านแล้วต้องวิเคราะห์และตัดสินด้วยตัวท่านเอง
https://www.theguardian.com/…/heat-not-burn-cigarettes-stil…
http://www.bbc.com/news/health-42328236
https://www.medpagetoday.com/pulmonology/smoking/69587
https://www.medpagetoday.com/primarycare/smoking/70237
https://www.medpagetoday.com/pulmonology/smoking/70238
http://www.bbc.com/news/business-38152297
http://money.cnn.com/…/philip-morris-anti-smokin…/index.html
https://www.gov.uk/…/towards-a-smoke-free-generation-tobacc…
สำหรับผม ผมสนับสนุน quit all.. เลิกทุกอย่างที่เกี่ยวกับควัน บุหรี่และนิโคติน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น