08 ธันวาคม 2560

category A ..the deadly weapon

category A ..the deadly weapon

😨😨Tuleramia😨😨

 จากเชื้อ Francisella turalensis  โรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน โดยสัตว์พาหะก็จะเป็นสัตว์ฟันแทะเช่น กระต่ายน้อย หนูน้อยน่ารัก จนเราคิดถึงคำที่เรียกว่า rabbit fever เลยทีเดียว โดยตัวหมัดเป็นพาหะที่แท้จริง  แต่ทว่าที่มันอันตรายเพราะสามารถแพร่เชื้อแบบละอองฝอยเข้าสู่ปอด เกิดเป็นปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้  เข้าตา กระจายเข้าผิวหนังที่มีรอยแผลได้ ซึ่งลักษณะการติดเชื้อจะต่างจากติดเชื้อจากสัตว์เล็กน้อยคือ ติดเชื้อจากอาวุธชีวภาพจะติดจากทางเดินหายใจเป็นหลัก ส่วนติดเชื้อจากสัตว์จะเป็นไข้เฉียบพลันไม่ค่อยมีอาการร่วม ที่เป็นจุดสังเกตอันหนึ่งคือทั้งๆที่ไข้สูงแต่ชีพจรจะไม่เร็ว
   การติดเชื้อยากที่จะระบุสาเหตุ ถ้าเข้ากระแสเลือดแล้วอัตราการเสียชีวิตสูงเหมือนกัน  มีคำอ้างการส่งเชื้อปนเปื้อนในดินและน้ำ ของแม่น้ำในโซเวียต ระหว่างช่วงสงครามโซเวียต เยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่สอง ในหนังสือ Harrison กล่าวว่า คนที่แพร่เชื้อคือหน่วย U731 ของญี่ปุ่นอีกแล้ว ...เริ่มดูแหม่งๆ ถ้าไม่เท็จ ก็สมคบคิดแน่ๆ

  😈😈smallpox 😈😈

ฝีดาษ ไข้ทรพิษ โรคร้ายที่ระบาดหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ไข้สูงมีจุดจ้ำแดงทั่วตัวจากกลางลำตัวแออกไปที่แขนขา พัฒนาไปเป็นตุ่มน้ำพร้อมๆกัน แตกออกและเป็นแผลเป็นหนองพุพอง เลือดออก อันนั้นรวมถึงอวัยวะภายในด้วย  บอกตามตรงอ่านมาเขียนไม่เคยเห็นจริงๆเลย เพราหลังจากที่เซอร์เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ได้คิดค้นการปลูกฝีในปี 1796 การระบาดของโรคก็ลดลงอย่างมาก
   จริงๆแล้วการเกิด hemorrhagic form หรือการติดเชื้อรุนแรงที่แยกยาก จากการติดเชื้ออื่นๆ เป็นรูปแบยที่พบไม่บ่อยตามธรรมชาติ (แค่ 10%) แต่ทางนักวิทยาศาสตร์ของ CDCคิดว่าน่าจะเป็นแบบที่พบมาก หากกลายเป็นอาวุธชีวภาพ เพราะกระจายทางละอองฝอยเข้าปอดและแผลนั่นเอง (กุญแจสำคัญคือ ทางละอองฝอยหรือปนเปื้อนทางน้ำ)

   ฝีดาษถือว่าควบคุมและกำจัดเบ็ดเสร็จในปี 1980 มีการเก็บเชื้อไว้แค่สองที่คือ ที่ CDC อเมริกาและที่ institute of virus preparation อดีตโซเวียต  ตอนนี้ไม่ปรากฏว่าอยู่ที่ใด ไม่ปรากฏว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่  ทำให้ยาที่กำลังพัฒนาเพื่อรักษาฝีดาษคือ Arestvyr และ Brincidofovir ไม่ได้เอาออกมาใช้สักที ...ดูมีปมทางสมคบคิดนะ
  นับว่าเป็นโรคที่น่าหวาดระแวงเพราะมีอดีตที่น่าสะพรึงกลัว หากมีข่าวออกมาน่าจะบั่นทอนความมั่นคงมากทีเดียว

  💀💀กาฬโรค the Black death💀💀

 โรคที่มีประวัติศาสตร์การระบาดที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ การระบาดแพร่กระจายจากมองโกลผ่านเส้นทางสายไหมลงมายังคาราโครัมไฮเวย์ เข้าสู่ประตูยุโรปทางตุรกี ข้ามกำแพงแห่งคาฟคาและสังหารยุโรปมาเป็นเวลานาน กว่าจะทราบว่ามันแพร่กระจายจากหมัดหนู โดยส่วนมากเป็น bulbonic plague คล้ายๆ tuleramia หรือ smallpox
  แต่ที่น่ากลัวคือการแพร่กระจายทางละอองฝอยสารคัดหลั่งที่มีตัวเชื้อจากคนสู่คน และการปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ เช่นเคยอีกแล้ว..มีรายงานว่า U731 หน่วยทหารมรณะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ใช้เชื้อ plague ลงไปในแหล่งน้ำเมื่อคราวญี่ปุ่นบุกจีนในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง และเมืองที่เป็นเป้าหมายคือ แมนจูเรีย ฐานที่มั่นแรกของญี่ปุ่นก่อนจะคืบรุกต่อไปในแผ่นดินใหญ่

  ตำนานแห่งการใช้อาวุธชีวภาพครั้งแรกของกองทัพมองโกล การแพร่กระจายที่รวดเร็วรุนแรง อาการคล้ายกับโรคอื่นที่แยกยาก อัตราการตายสูง สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนและปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ไม่มีวัคซีน ทำให้ยุคสงครามเย็นมีการพัฒนาการสร้าง ละอองฝอยของเชื้อที่ใช้ปริมาณไม่มาก สามารถแพร่ไกลได้อย่างต่ำๆก็รัศมี 10 กิโลเมตรด้วยการกระจายทางสายลมด้วยตัวเอง !!
  เรียกว่าเกือบเป็น perfect biological weapon เลยทีเดียว การระบาดในอินเดียปี 1994 ทำให้มีคนหวาดกลัวและหนีภัยมากมายถึง 500,000 คนทั้งๆที่ผู้ป่วยที่ยืนยันการป่วยนั้นน้อยมาก  และในปีต่อมาก็มีการจับกุม Larry Wayne Harris ผู้ต้องสงสัยที่จะก่อการโดยการเคลื่อนย้ายแบคทีเรียอันตรายซึ่งก็คือ เชื้อ Yersinia pestis ที่ก่อโรคกาฬโรค ข้อมูลของการจับกุมจากสามหนังสือพิมพ์ที่ผมค้นไม่ตรงกันเลยมสรุปก็ไม่รู้ว่าข้อหาใดกันแน่ แต่หลังจากนั้นก็มีกฎว่าการขนส่งขนย้ายแบคทีเรียอันตราย 42 ชนิดต้องได้รับการอนุญาต ไม่เช่นนั้นก็ผิดกฎหมาย  โดยประกาศจาก CDC
ยังมีการระบาดของกาฬโรคตามธรรมชาติอยู่บ้างชนิดไม่รุนแรงนักที่มาดากัสการ์ซึ่งระบาดเป็นประจำ แต่ยังไม่มีรายงานการระบาดแบบอาวุธชีวภาพเกิดขึ้นเลย ...หรือ ไม่มีใครทราบ

  😈😈อันดับสอง ก็จะเป็นแอนแทรกซ์😈😈

ตามข้อมูลที่นำเสนอไปตั้งแต่วันอังคาร  เพราะทุกแบบของอาวุธชีวภาพจะเปลี่ยนลักษณะการติดต่อหลักของโรค คือการติดต่อหลักของโรคจะเป็นทางสัมผัส ทางสารคัดหลั่ง ทางการปนเปื้อน แต่เมื่อนำมาเป็นอาวุธชีวภาพมักจะแพร่และติดทางละอองฝอยหรือปนเปื้อนทางน้ำ ทำให้อาการและอาการแสดงแตกต่างจากที่เคยรู้เคยเรียน
   แถมอาการก็จะไม่เฉพาะเจาะจงด้วย ไข้สูง เหนื่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หอบ ติดเชื้อรุนแรงและอวัยวะล้มเหลว กว่าจะทราบ(ซึ่งคงไม่ทราบถ้าไม่คิดถึงมัน) ก็แพร่กระจายไปมากแล้ว
  สำหรับแอนแทรกซ์ แบบอาวุธชีวภาพก็จะเป็น inhalation anthrax อย่างที่อธิบายไปก่อนหน้านี้ เพราะไม่ต้องผ่านสัตว์พาหะ เป็นอาวุธชีวภาพที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้จริงคือส่งทางจดหมาย !!! ตอนนั้นเล่นเอา ciprofloxacin หายไปจากตลาดเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น