08 ธันวาคม 2560

มาจนถึงอาวุธชีวภาพอันดับที่หนึ่ง คือ Botulinum toxin

มาจนถึงอาวุธชีวภาพอันดับที่หนึ่ง (อันนี้ในมุมมองผมนะ) คือ Botulinum toxin จากเชื้อ Clostridium botulinum
Clostridium แบคทีเรียรูปแท่งกรัมบวก ไม่ต้องใช้ออกซิเจนหายใจ ในภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตก็จะเป็นสปอร์ และสร้างสารพิษออกมา ภาวะนี้มันจะคงทนมากต้องใช้ความร้อนสูงมากๆในทางอุตสาหกรรมอาหารจึงจะทำลายได้ ความร้อนในครัวไม่สามารถทำลายสปอร์ได้
แต่ว่าพิษของมันคือ botulinum toxin ใช้ความร้อนมากกว่า 85 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 5 นาที และในรูปแบบของเชื้อที่ไม่ใช่สปอร์ ก็สามารถถูกความร้อนทำลายได้เช่นกัน ก็ต้องถือว่าการทำอาหารให้สุก ป้องกันโรคได้ระดับหนึ่ง
เชื้อจะสร้างสารพิษ ในภาวะแวดล้อมที่ไม่มีออกซิเจน ไม่เป็นกรดมากนัก ก็คือภาวะแวดล้อมในการเก็บอาหารนั่นเอง
พิษของมันทำให้การส่งกระแสประสาทจากปลายประสาทไปที่กล้ามเนื้อทำไม่ได้ (SNARE protein dysfunction) กล้ามเนื้อก็จะหดต้วไม่ได้ เกิดอัมพาตแบบกล้ามเนื้อคลายตัว (ก็เลยใช้รักษากล้ามเนื้อหดเกร็งและเท้ากาได้นั่นเอง) เป็นอัมพาตจากบนลงล่าง และเมื่อกล้ามเนื้อการหายใจอัมพาต..ก็ไปหาโกโบริที่ทางช้างเผือก
การรักษานอกจากการดูแลประคับประคองแล้ว ก็ต้องให้สารต้านพิษ (botulinum antitoxin) และกำจัดเชื้อ C.botulinum ด้วย
แต่จะว่ากันจริงๆ โอกาสเกิดพิษเช่นในอาหารปนเปื้อน หน่อไม้ปีบ อาหารกระป๋องไม่มากเลย และยิ่งเกิดจากการกระจายทางละอองฝอยยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ในธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเกิดการระบาดเป็นวงกว้างหรือจากละอองฝอย คิดได้อย่างเดียวเลยคือ ..ก่อการร้าย
พิษโบทูลินัมบริสุทธิ์ (crystalline form) ในขนาดหนึ่งกรัมประมาณการว่าสามารถสังหารคนได้หนึ่งล้านคน ขนาดที่สังหารคนได้ทางการกินแค่ 30 นาโนกรัม ขนาดทางการหายใจแค่ 0.8 ไมโครกรัม ประมาณการว่าคนน้ำหนัก 70 กิโลกรัม 5พันล้านคน จะใช้พิษบริสุทธิ์แค่ 40 กรัม สามารถสังหารได้จน extinction
เมื่อคราวที่อเมริกาบุกอิรัก ด้วยข้ออ้างว่าอิรักมี botulinum toxin 19,000 ลิตร !!! เรียกว่าสังหารได้ตั้งแต่ชาตินี้ ชาติที่แล้ว ยันชาติหน้าเลย ซึ่งมหัศจรรย์มากขนาดรู้ว่ามี 19,000 ลิตร แต่พอไปบุกจริงๆ สารพิษที่ว่านี้หายไปเฉยเลย ไม่มีใครหาพบมาถึงทุกวันนี้ หรือมันจะอยู่บน MH 370
สารพิษนี้ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ปนเปื้อนได้ในทุกภาวะ ทุกอาหาร สามารถทำให้แพร่กระจายได้ทางละอองฝอย ขนาดที่เกิดพิษต่ำ แต่รุนแรงและสยองขวัญ อัตราการเสียชีวิตสูงมากเพราะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการรักษา และยาต้านพิษที่มีไม่มาก ..แถมยังสามารถส่งสปอร์ที่แสนจะอึดและทน ไปสร้างสารพิษใหม่อีกด้วย แบคทีเรียอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน
สารพิษสังหารได้ในอากาศด้วยอัตราการแพร่กระจาย 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ว่าขนาดสังหารในอากาศต้องใช้ขนาดสูงกว่าในอาหารมากๆ เรียกว่าถ้าผมไปหย่อนลงแม่น้ำปิงวังยมน่านวันนี้ อีกสองสามวัน พวกท่านก็ไปหาโกโบริ
เดิมทีมนุษย์ใช้โบท๊อกซ์ในการรักษากล้ามเนื้อเกร็งคือ ตาเขเป็นหลัก ต่อมาก็ใบหน้ากระตุก กล้ามเนื้อเกร็ง ลดการหลั่งเหงื่อในคนที่ hydrosis สิ่งของทุกอย่างหากใช้ให้เกิดประโยชน์ก็จะมีคุณค่า แต่ถ้าหากใช้แบบเกิดโทษก็จะอันตรายมากๆเช่นกัน
ยังไม่มีรายงานการใช้โบท๊อกซ์ที่ชัดเจน มีแต่รายงานการจับกุมผู้ครอบครองและขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
คงจบซีรี่ส์ biological weapon อย่างสมบูรณ์แล้ว อยากบอกว่าต้องรู้นะครับ มีแฟนเพจท่านหนึ่งบอกว่า แค่มีแก๊สซารินสักที่ในไทยก็จะตระหนกมากแล้ว เพราะเราไม่รู้จักรักษาไม่เป็น น่าตกใจเหมือนกัน
ปล. รอดูอาวุธชีวภาพสุดอันตรายในเวทีแชมป์เปี้ยนลีกส์...หงส์แดงจอมโหด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น