03 ธันวาคม 2560

การถูกมัดมันไม่ได้มีผลเสียแค่บาดเจ็บ

กลางดึกคืนหนึ่ง ในห้องไอซียูอันแสนวุ่นวาย มิว..พยาบาลสาวที่รับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยรายหนึ่ง เขาอายุมาก เพ้อเป็นระยะๆ สับสน มิวรู้สึกหวาดหวั่นว่าเขาจะดึงสายสวนหลอดเลือดดำที่ไหปลาร้าออก ผู้ป่วยรายนี้แทบไม่มีหลอดเลือดที่เปิดได้อีกแล้ว กว่าหมอจะใส่สายได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เธอกลัวว่าถ้าหากคนไข้ดึงออก ก็ไม่มีสายน้ำเกลือให้ ต้องมาใส่ใหม่ เธอตัดสินใจถาม เมรีญา พยาบาลอีกคนที่ขึ้นเวรด้วยกัน
"นี่ เม ...พี่ว่าพี่จะมัดคนไข้ดีไหม พี่กลัวแกดึงสายออกหมด นี่เมื่อวานคุณลุงเตียงนั้นก็เพิ่งดึงท่อช่วยหายใจออกไป"
เมรีญาอึกอัก "จะดีหรือพี่ คุณหมอย้ำหลายครั้งแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไปมัดคนไข้ และถ้าถึงที่สุดแล้ว ต้องแจ้งคนไข้แจ้งญาติก่อนนะพี่"
น้องมิว ดูเครียด "ก็หมอน่ะ ไม่มาอยู่ตรงนี้นี่นา เราก็คุยกับคนไข้ก็แล้ว ให้ญาติมาคุยก็แล้ว ถ้าดึงออกเหมือนลุงกี้เมื่อวาน โดนหัวหน้าดุอีกแน่ๆ"
เมรีญาบอกว่า "หนูว่ารอหมอก่อนดีไหม พี่มิวตามคุณหมอแล้วนี่ อีกอย่างตั้งแต่หนูมาทำงานที่นี่ หนูก็ไม่เห็นว่าการมัดมือมัดเท้า มันจะช่วยลดการดึงท่อ ดึงสายได้เลย เราก็มัดแล้วมัดอีก จนข้อมือช้ำ ถลอก สุดท้ายดึงได้อยู่ดี"
มิวยิ้มออก สบายใจขึ้น "นั่นสินะ ขนาดพี่มัด คนไข้ยังตกเตียงเลย คุณหมอพูดบ่อยๆว่า การศึกษายุคใหม่ๆบอกว่ามัดก็ไม่ช่วยอะไร อีกเดี๋ยวหมอก็มาแล้วล่ะ อีกอย่างนะ..พี่สังเกตว่าตั้งแต่น้องเมย้ายมาอยู่ที่นี่ พี่ตามหมอง่ายขึ้นนะ"
เมรีญายิ้มอายๆ แล้วก้มหน้าบันทึกผลสัญญาณชีพคนไข้ต่อไป
ครู่หนึ่ง คุณหมอก็เข้ามา เขาหน้าตาซูบโซด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เวลาอดนอนจึงโซมาก แต่สายตาคมกริบดุจดังเหยี่ยวล่าเหยื่อ ในมือมีถ้วยกาแฟที่เพิ่งกดมาจากตู้เดินเข้ามา คุณมิวเข้าไปรายงานสถานการณ์ คุณหมอยิ้มออก และซดกาแฟทีเดียวหมดแก้ว ด้วยความที่ร้อนพอสมควรจึงหกเลอะเสื้อบ้าง แล้วบอกว่า "ดีแล้วล่ะคุณมิว แม้การมัดจะทำให้เราทำงานสะดวก ไม่ขัดขวางการรักษา แต่ก็ไม่ได้ลดการตกเตียง หรือดึงสายดึงท่อสักเท่าไรนัก แถมยังทำให้คนไข้บาดเจ็บอีกด้วย เราควรพูดคุยและบอกสถานการณ์เวลา สถานที่ ให้คนไข้ ให้ญาติเข้ามาเยี่ยม กุมมือพูดคุย อธิบายการรักษาให้คนไข้เข้าใจ สุดท้ายถ้าไม่สำเร็จก็อาจใช้ยาช่วยให้สงบ ลดปวด และคลายกังวล ส่วนการมัด ผมขอเป็นวิธีสุดท้ายนะ"
คุณหมอเข้าไปตรวจและพูดคุยกับคนไข้ และชี้แจงญาติ เสร็จแล้วให้ยาลดปวดและคลายกังวล ดูคนไข้สงบลง และคิดว่าหลังให้ยาเหตุการณ์คงกลับเป็นปกติ
"เอ่อ..เมรีญาครับ คุณพอมีกระดาษทิชชูไหมครับ จะเอาไปซับคราบกาแฟสักหน่อย" คุณหมอถามเมรีญา
เมรีญายิ้มและขอตัวเดินไปหยิบกระดาษเปียกในล็อกเกอร์ ฝากมิวช่วยปรับจอติดตามผลคนไข้ของเธอ แล้วเดินยิ้มไปหยิบทิชชู่เปียก ...หมอนั่งลงบันทึกข้อความในเวชระเบียน คุณมิวเดินงงๆ ไปที่เตียงคนไข้ของมารีญา นึกในใจว่า ทำไมจะต้องให้มารีญาไปหยิบให้ด้วยล่ะเนี่ย ...เธอเดินไปที่เตียงคนไข้จัดสายต่างๆและปรับจอให้หันมาทางโต๊ะพยาบาล
"ลุงดีใจนะ ที่หนูตัดสินใจไม่มัดคุณคนนั้น ลุงเคยถูกมัดมาแล้ว " คนไข้ชราที่นอนอยู่ ซึ่งเห็นเหตุการณ์มาตลอดพูดกับคุณมิว
"เมื่อเช้าตอนที่หนูมาให้ยาคุณลุง คุณลุงเคยบอกหนูแล้วว่าถ้าลุงยังไม่แย่มากๆจริงๆ ขออย่าให้มัดคุณลุง หนูยังจำได้เลย ก็เลยลังเลที่จะใช้วิธีมัดค่ะ ว่าแต่คุณลุงเคยถูกมัดด้วย ตอนนั้นรู้ตัวไหมคะ แล้วรู้สึกอย่างไร" คุณมิวยิ้มอ่อนโยน ถามคุณลุงผู้ชรา
ชายชราวัยหกสิบกว่าๆ บอกว่า "การถูกมัดมันไม่ได้มีผลเสียแค่บาดเจ็บนะหนู แถมยังกันอะไรไม่ได้ อย่างลุงกี้เตียงข้างๆก็เพิ่งดึงท่อช่วยหายใจออกไป แต่ตอนนั้นที่ลุงถูกมัด มันไม่ใช่แค่เจ็บทางร่างกาย แต่มันทำให้รู้สึกเหมือนเราถูกเอาอิสรภาพไป เหมือนเราถูกกระทำทารุณลย ถูกใส่กุญแจมีอ ทั้งๆที่เราก็เข้าใจทีมการรักษานะ แต่ว่าก็อดรู้สึกไม่ได้ แถมยังติดอยู่ในใจมาถึงตอนนี้ คิดว่าหากไม่รู้สติจริงๆ ขออย่ามามัดลุงเลย"
"เหมือนลุงกี้ที่พอสับสน หมอก็ยิ่งฉีดยา ก็ยิ่งสับสนไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็...ดึงท่อช่วยหายใจ ลุงนี่ลุ้นจนใจสั่นเลยนะหนู"
คุณมิวจัดอุปกรณ์เสร็จ ก็ดึงถ้าห่มมาคลุมตัวคุณลุง ปิดไฟหัวเตียง แล้วบอกว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ทุกวันนี้เราไม่มัดกันพร่ำเพรื่ออีกแล้ว ต้องจำเป็นมากๆจริงๆ และไม่มีวิธีอื่นแล้วเท่านั้น และจะบอกคุณลุงก่อนค่ะ อีกอย่าง..หนูไม่ใช่พวกชอบมัดนะคะ คุณลุงพักเถอะค่ะ"
หลังจากเรียบร้อยแล้วคุณมิว ก็เดินไปปรึกษาแผนการรักษากับคุณหมอ โดยมีเมรีญานั่งจิบกาแฟที่คุณหมอเพิ่งซื้อมาฝากเมื่อสักครู่นี้ คอยรับฟังด้วย และพยายามอดทนกับกลิ่นกาแฟที่เย้ายวนเหลือเกิน นึกเคืองในใจ ...ซื้อมาแก้วเดียว ฝากคนเดียวด้วยนะคะ คุณหมอ ...
อย่าลืมอ่านบทสรุป
บ่ายวันนั้น มิวมาขึ้นเวรอีกครั้ง และแปลกใจว่าคุณลุงผู้ชราที่บอกเล่าประสบการณ์การถูกมัดได้ย้ายออกไปแล้ว เธออยากจะมาถามถึงว่าตอนนั้นหลังจากถูกมัดคุณลุงรู้สึกอย่างไร มันยังมีผลต่อเนื่องถึงระยะหลังหรือไม่ เสียดายโอกาสที่ไม่ได้ถาม
..
..
เวลาเดียวกันนั้นเอง ที่จอดรถหลังโรงพยาบาล ฮอนด้าแจ๊สคันใหม่เอี่ยมป้ายแดงกำลังเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เบาะหลังมีชุดคนไข้ หน้ากากชายชรา วิกผมสีเทา อุปกรณ์การปลอมตัวระดับมืออาชีพ เครื่องแปลงเสียงให้ฟังสูงวัย ทั้งหมดกองอยู่ พร้อมกับห่อขนมต้มแดงห่อใหญ่
หลังพวงมาลัยปรากฏเป็นชายหนุ่มหน้าตาคมสัน รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ สวมแว่นตา เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม รองเท้านันยางสีขาว กำลังเคลื่อนรถออกไปอย่างช้าๆ เขาปรับกระจกมองหลัง บังเอิญไปโฟกัสตรงอกเสื้อยืดสีขาว ที่มีตัวสกรีนสีน้ำเงินเข้มว่า "อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว"
ที่มา
Physical restraint: time to let go
Lisa Burry, Louise Rose, Bara Ricou
What's New in Intensive Care
Online First ™ - November , 2017 :Pages 1 - 3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น