30 ธันวาคม 2560

Angle of Louis

ตามหา "หลุยส์"
ชื่อต่างๆทางการแพทย์ มีที่มาที่ไปชัดเจน ก็เห็นจะมีอันนี้แหละครับที่ยังคลุมเครือ คือ Angle of Louis หรือ sternal angle ผมไปพบบทความที่น่าเชื่อและสนุกสนานชิ้นหนึ่ง กล่าวถึงการตามหากาลิเลโอ...ไม่ใช่ล่ะ..การตามหา "หลุยส์"
มารู้จัก sternal angle กันสักหน่อย ผมนำรูปมาให้ดูกันด้วย กระดูกหน้าอกประกอบด้วยกระดูกย่อยๆสามชิ้นไล่จากบนลงล่างคือ Manubrium ตามด้วย Strenum ต่อด้วย Xiphoid แต่ละชิ้นมาต่อกันและทำมุมเล็กน้อยและทั้งสามชิ้นก็ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของซี่โครง มุมที่ทำระหว่างกระดูก manubrium และ sternum นี่แหละครับที่เรียกว่า sternal angle
ตำแหน่งนี้ถือเป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งต่างๆทางกายวิภาค เช่น เป็นจุดต่อของกระดูกซี่โครงซี่ที่สอง เป็นจุดแบ่งพื้นที่ส่วนระหว่างปอดที่เรียกว่า mediastinum เป็นบนและล่าง เป็นจุดอ้างอิงในการวัดความสูงของหลอดเลือดดำที่คอในการประเมินสารน้ำของร่างกาย เราเรียกชื่อจุดนี้มุมนี้ว่า angle of Louis
แล้วหลุยส์คือใคร
นักกายวิภาคและศัลยแพทย์คณะหนึ่งได้ทำการสืบค้นว่าหลุยส์คือใคร โดยทำการสืบบันทึกต่างๆและชื่อของคนที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นหลุยส์ คือต้องอยู่ในช่วงเวลานั้นๆที่ชื่อเริ่มปรากฏ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่น่าจะตั้งชื่อได้ แน่นอนคงไม่หยิบหลุยส์มาทั้งโลก หลุยส์ ซัวเรซ, หลุยส์ สก็อต เขาก็ได้รายชื่อคนที่น่าจะเป็นหลุยส์มาทั้งหมดสามคนดังนี้
- Wilhelm Friedrich von Ludwig
- Antoine Louis
- Pierre Alexandre Louis
ท่านคิดว่าเป็นใคร หนึ่งเยอรมัน สองฝรั่งเศส น่าสนใจนะ จริงๆผมไปค้นมาเพิ่มเติมแล้วล่ะ หลายเอกสารเป็นภาษาฝรั่งเศสครับ เอาไว้ปีหน้าผมจะไปหาแฟนเป็นสาวสวยฝรั่งเศสแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังนะครับ
คนแรกก่อน Ludwig น้องๆหมอน่าจะรู้จักกันดี ในชื่อ Ludwig's angina (angina ludovici) การติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณเนื้อเยื่อใต้คอใต้ลิ้น จะลุกลามเร็วมากจนอุดกั้นทางเดินหายใจ มีอาการเจ็บปวดมากเวลากลืนน้ำลาย แองไจน่าคือปวดนั่นเอง ท่านเป็นศัลยแพทย์ชาวเยอรมัน สมัยก่อนศัลยแพทย์ต้องเรียนอายุรศาสตร์ด้วยนะครับ ท่านจบแพทย์แล้วเข้าร่วมกองทัพนโปเลี่ยน แพ้สงครามถูกจับติดคุก และได้รับการปล่อยตัวออกมามาเป็นอาจารย์แพทย์ที่ Tubingen เยอรมัน
เรื่องของเรื่องคือ ในหนังสือกายวิภาคสมัยก่อนเขียนมุมนี้ว่า "angulus Ludovici" ...อุ๊ยๆๆ คุ้นๆไหม ไปดูชื่อ Ludwig's angina ข้างบนซิ คือคำว่า ludovici ...มันแปลมาผิดนั่นเองครับ ไปจับแพะชนแกะว่าคงเป็น Louis เดียวกัน ทั้งๆที่งานเขียนทั้งหลายของ Ludwig ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ sternal angle เลยแม้แต่นิดเดียว
สรุปว่า ผิดตัวไปแล้วหนึ่งคน
คนที่สอง Antoine Louis ชาวฝรั่งเศส คราวนี้มีชื่อ Louis แบบห้าตัวเต็งๆ ไม่มีโต๊ดเลย เป็นศัลยแพทย์ของกองทัพเช่นกัน งานวิจัยที่โด่งดังคือการค้นพบการติดต่อของมาเลเรีย ได้เป็นศาสตราจารย์ทางสรีรวิทยา และอีกหนึ่งงานที่ไม่รู้เรียกว่าน่าพอใจดีหรือไม่ คือ เป็นผู้ร่วมคิดค้นเครื่องประหาร "กิโยติน" ร่วมกับ Joseph Ignace Guillotin ซึ่งชื่อเครื่องประหารตอนแรกคือ "Louisette" ตามชื่อ หลุยส์นั่นเอง
แม้ว่าอังตวน หลุยส์ จะดูเหมือนมากแต่ทว่าไม่มีบทความใดๆ หรือรายละเอียดใดๆเลยที่มาเกี่ยวข้องกับ sternal angle แถมการใช้คำว่า angle of Louis เริ่มใช้ประมาณ 60 ปีหลังจาก Antoine เสียชีวิตไปแล้ว
สรุปว่า หลุดไปอีกหนึ่ง
คนที่สาม Pierre Alexandre Louis มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด (แหงล่ะ ก็หลุดไปสองแล้วนี่นา) เป็นชาวฝรั่งเศสศึกษานิติศาสตร์ เรียนไปเรียนมาจบแพทย์ หลังจากนั้นไปทำงานที่รัสเซียและยูเครน จนได้เป็นแพทย์ของ Tsar ซาร์นี่คือ อาณาจักรของรัสเชียที่เรียกว่า Tsardom นับสมัยที่ไปอยู่คือในปีค.ศ. 1813-1822 น่าจะเป็นซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 1 สมัยนั้นเขาได้ศึกษาระบาดวิทยาของโรคคอตีบ จนได้เป็นผู้คิดค้น Numerical Method การวิเคราะห์ตัวเลขในเชิงสถิติ ถือเป็นต้นธารของ evidence-based medicine
ด้วยความที่ชื่อ Louis และ อยู่ในช่วงเวลานั้นรวมทั้ง Pierre ได้เอ่ยถึง มุมที่ต่อระหว่างกระดูก manubrium และกระดูก sternum และได้บรรยายตอนที่เขาศึกษาเรื่องวัณโรคปอดและถุงลมโป่งพอง เขาสังเกตว่ามุมที่เกิดจากกระดูกสองชิ้นต่อกันนี้มันเด่นชัดและนูนขึ้นกว่าปกติ เป็นจุดที่บ่งชี้ว่าน่าจะมีโรค (เขาคิดว่าตรงนี้ผิดปกติ เกิดในคนเป็นโรค) แต่ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าเป็นมุมปกติ ซึ่งไม่มีใครเอ่ยถึงมุมนี้มาก่อนหน้านี้เลย
คณะทำงานจึงได้อนุมานทั้งจากวิธีนิรนัยและอุปนัยว่า sternal angle หรือ Angle of Louis น่าจะมาจาก Pierre นี่เอง เพราะไม่มีหลักฐานปฐมภูมิที่ชี้ชัดว่าใช่ แต่จากหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดก็น่าจะสรุปได้เช่นนี้
ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว...หลุยส์...ในที่สุดเราก็พบคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น