20 กันยายน 2560

ตากฝน โดนละอองฝน ทำให้เกิดไข้หวัด จริงหรือไม่ ???

ตากฝน โดนละอองฝน ทำให้เกิดไข้หวัด จริงหรือไม่ ???
วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับโรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจส่วนบน โรคที่พบมากที่สุดในเวชปฏิบัติ ทุกประเทศ ทุกกลุ่มอายุ ไข้หวัด
ความเข้าใจประการแรกก่อนเลยครับ การที่มีน้ำมูกมาก ไอ มีเสมหะ จมูกบวม ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นอาการที่ไม่มีความไวและไม่มีความจำเพาะต่อโรคใดๆเลย อาจเกิดจากภูมิแพ้จมูก อาจเกิดจากไข้หวัด หรือติดเชื้อใดๆก็ได้ในระยะแรก ทั้งไวรัสเช่น ไข้หวัดใหญ่ ตับอักเสบ คางทูม หรือแบคทีเรีย วัณโรค
**การสังเกตอาการต่อเนื่อง และตรวจหาอาการร่วมอื่นๆ มีความสำคัญที่สุด**
ไม่ควรกินยากัน ไม่ควรกินยาเผื่อ เพราะสาเหตุส่วนมากไม่ได้ใช้ยาฆ่าเชื้อรักษาแต่อย่างใด และนี่คือปัญหาที่เราพบมากขึ้นๆ ทั้งโลก คือการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น เพียงเพราะ คิดว่าใช่ เดี๋ยวก็เป็น ไม่อยากเสียเวลา กินนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก มันดื้อยามานานแล้วไม่เกี่ยวกับเรา
ไข้หวัด จะดูเหมือนไข้หวัดจากการติดเชื้อมากขึ้นถ้าเริ่มมีไข้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไข้สูง สองสามวันแรกแล้วเริ่มลดลง อาการอื่นๆก็ดีขึ้น ลักษณะไข้ รูปแบบของไข้อาจจะยังแยกยากนะครับ ต้องติดตามดูไปก่อน เมื่อติดตามไป อาการที่บ่งชี้โรคต่างๆก็จะชัดขึ้น
การตรวจเลือดตั้งแต่แรก การตรวจหาไวรัสก่อโรคชนิดตรงตัวเป๊ะๆ อาจไม่ก่อเกิดประโยชน์มากนัก เพราะไข้หวัดเกือบ 90% อาการหายเองและไม่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อตัวใดก็ตาม การเจาะจงต้องส่งแล็บเป๊ะๆ อาจช่วยในด้านงานวิจัยและระบาดวิทยา แต่อาจมีผลน้อยมากในการตัดสินใจรักษา
เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหวัด เรามารู้จักชื่อกันหน่อย rhinovirus,adenovirus, human respiratory syncytial virus, corona virus, parainfluenza virus, metapneumovirus, influenza virus เยอะมากเลย นี่ยังไม่นับเชื้ออื่นๆ ที่อาจเกิดอาการ "เริ่มต้น" แบบไข้หวัดอีกนะ
เอาละ ที่ชื่อดังหน่อยก็ influenza เป็นได้ทั้งไข้หวัดใหญ่และไข้หวัด เจ้า corona virus ถ้ารุนแรงและระบาดในบางสายพันธุ์เราอาจพอได้ยินกันในชื่อ SARS หรือ MERS-CoV เจ้า RSV ที่จะมีวิธีรักษาจำเพาะในเด็กที่อาการรุนแรง (aerosol ribavarin)
อย่างที่กล่าวนะครับ การจะแยกชัดเจนต้องส่งสิ่งส่งตรวจจากจมูกและคอหอยไปตรวจพิเศษ ในบ้านเรากว่าจะได้ผลก็อาจเป็นสัปดาห์ โรคก็หายแล้วและราคาค่าส่งตรวจก็แพงมาก เมื่อเทียบกับราคาค่ารักษาแบบประคับประคอง เราจึงไม่ได้นิยมส่งตรวจแยกครับ
อาการและการตรวจร่างกายจะเหมือนๆกัน การรักษาก็เหมือนกัน คือการประคับประคองอาการ ลดไข้ ลดน้ำมูก บางรายที่อาการรุนแรงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจก็ยังรักษาด้วยการประคับประคองเช่นกัน
แม้กระทั่งไข้หวัดใหญ่ influenza หากอาการไม่รุนแรงและไม่มีแนวโน้มการเกิดผลข้างเคียงแทรกซ้อนอันตรายก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา (อันตรายมักเกิดกับผู้สูงวัย เด็ก ผู้ที่มีโรคร่วม หญิงตั้งครรภ์)
สิ่งที่สำคัญคือ การป้องกันการติดเชื้อและการกระจายเชื้อ ไวรัสกลุ่มนี้แพร่กระจายเชื้อทางการสัมผัส คือสารคัดหลั่งน้ำมูก น้ำลายเสมหะ อาจจะปลิวออกมาจากการไอจาม สั่งน้ำมูก โดยเฉพาะเด็กๆ ป้ายจมูกแล้วป้ายโน่นนี่ ป้ายตา ก็ติดต่อกันเร็ว
ดังนั้นการป้องกันที่ดีคือ การหมั่นล้างมือให้สะอาด ใช่สบู่ธรรมดานี่แหละครับ แต่ล้างบ่อยๆ การใส่หน้ากากป้องกันหลักๆทำเพื่อให้สารคัดหลั่งของคนที่เป็นโรค **ไม่แพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม** ดังนั้นคนที่เป็นโรคต้องใส่หน้ากากอนามัยครับ
ไอจามปิดปาก ทิ้งกระดาษเช็ดน้ำมูกในภาชนะปิด ล้างมือ ซักผ้าเช็ดหน้า อย่าใช้ร่วมกับคนที่กำลังเป็นหวัด
การกินวิตามินซี ไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ และที่พบว่ามักจะเป็นตอนตากฝน หรือถูกละอองฝน ก็เพราะวงรอบการแพร่กระจายของโรค สภาวะความชื้นและอากาศในช่วงฤดูฝนเหมาะสมกับการแพร่กระจายนั่นเองครับ
พักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ กินอาหาร ถ้ามีไข้ก็รับประทานยาลดไข้ แก้ปวด ดีที่สุดก็พาราเซตามอล ถ้ามีน้ำมูกมาก ไอมาก รำคาญมาก ก็รับประทานยาลดน้ำมูก ลดจมูกบวมได้ครับ
สังเกตอาการถ้ามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนจึงพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อ
ตอนนี้ ฝนกำลังตกหนัก อากาศแปรปรวน เชื้อกำลังแพร่กระจาย ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก ลุงหมอน่ารักแต่อกหักกับล๊อตเตอรี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น