22 กุมภาพันธ์ 2560

การให้การป้องกันการติดเชื้อ HIV ในกรณีมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้ป้องกันตัว

การให้การป้องกันการติดเชื้อ HIV ในกรณีมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้ป้องกันตัว

สรุปเป็นข้อๆนะครับ เหมือนเราประสบเหตุด้วยตัวเองจะทำอย่างไร แนวทางของแต่ละที่จะคล้ายๆกัน ผมจะหยิบของ DHHS มาเป็นหลักครับ

1.นับเวลาก่อนเลย ยิ่งเร็วยิ่งเกิดประโยชน์ ถ้าปล่อยเวลาล่วงเลยไปหลังจากเสี่ยงไปมากกว่า 72 ชั่วโมงจะไม่เกิดประโยชน์ในการป้องกันแล้ว

2.สองข้อที่ต้องใช้ประเมิน คือ เสี่ยงแบบไหน คือมีเพศสัมพันธ์ทางใดก็จะเสี่ยงไม่เท่ากัน และอย่างที่สองคือ คนที่เราไปมีสัมพันธ์ด้วยเสี่ยงไหม เขาเป็นเอดส์ เขาไม่เป็นเอดส์ หรือว่าไม่รู้เหมือนกัน ตัวเลขจาก CDC
a.อัตราเสี่ยง นับต่อ 10,000 นะครับ ถ้าเป็นฝ่ายรับ ทางช่องคลอด 8 ,ทางทวารหนัก 138 ,ทางปาก เสี่ยงต่ำ
b.ฝ่ายรุก ทางช่องคลอด 4, ทางทวารหนัก 11, ทางปาก เสี่ยงต่ำ
c.น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่นช่องคลอด ไปโดนผิวหนังหรือเยื่อบุที่ไม่ฉีกขาด เสี่ยงต่ำมาก แต่ถ้าไปโดนตรงที่ฉีกขาดก็เสี่ยงเพิ่มขึ้น
d.Sextoy ไม่เสี่ยง (ถ้าใช้ถูกวิธีและไม่มีแผลฉีกขาด)

3.คนที่ไปมีสัมพันธ์ด้วย ถ้าไม่ทราบผลเลือดก็ตีเป็นเสี่ยงครับ  จะเสี่ยงมากสุดสำหรับคนที่เป็นเอดส์และไม่ได้รักษา ถ้าให้การรักษาแล้วก็เสี่ยงลดลง

4.รีบพาตัวเองและคู่สัมพันธ์มาตรวจ ทั้งไวรัสเอดส์ ตับอักเสบ และโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อยืนยันภาวะเริ่มต้น ถ้าเป็นอยู่แล้วให้เข้ารับการรักษา แต่ถ้าเราไม่เป็นและ พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ก็เสี่ยง คู่สัมพันธ์เป็นเอดส์ อันนี้ต้องกินยาป้องกันแน่ แต่ถ้าเสี่ยงต่ำหรือไม่สามารถพาคู่สัมพันธ์มาตรวจได้ คุณหมอจะคุยเป็นกรณีไปครับ

5.ยาที่ใช้ จะใช้ยาสามตัว สูตรที่แนะนำเพราะประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงต่ำ คือ ยา tenofovir/emticirabine เป็นยาเม็ดรวมกินวันละครั้ง ร่วมกันยาอีกหนึ่งตัวในสองตัวเลือกนี้ คือ raltegravir ขนาด 400 มิลลิกรัม กินวันละสองครั้ง  หรือยา dolutegravir ขนาด 50 มิลลิกรัม กินวันละครั้ง   ใช้เวลาในการรักษา 28 วัน  ส่วนสูตรสำรองจะใช้ยา tenofovir/emticirabine เป็นตัวหลักคู่กับ darunavir ขนาด 800 มิลลิกรัมวันละครั้ง คู่กับ ritonavir ขนาด 100 มิลลิกรัมวันละครั้ง

6.ถ้าการตรวจในข้อสี่ ทำไม่ได้หรืออาจทำให้การเริ่มยาล่าช้าออกไป ให้เริ่มยาและตรวจประเมินตามให้เร็วที่สุด อย่าให้ล่าช้าออกไป รพ.ต่างๆจึงตรวจมียากลุ่มนี้ไว้บ้างเผื่อฉุกเฉิน และสามารถใช้กับการประสบอุบัติเหตุเข็มทิ่มตำได้เช่นกัน

7.และติดตามผลเลือดเอดส์ และตับอักเสบ อีก 4-6 สัปดาห์ ครั้งที่สองที่สามเดือน เพื่อยืนยันการติดเชื้อหรือไม่  และถ้าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีร่วมด้วยต้องตรวจซ้ำที่หกเดือนด้วย เพราะกลุ่มนี้จะตรวจจับได้ช้า

8.ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการดูแลเรื่องจิตใจ และความสม่ำเสมอการกินยา การป้องกันนี้จะสำเร็จขึ้นกับความสม่ำเสมอการกินยา แต่ภาวะจิตใจเปราะบางอาจเป็นอุปสรรคในคำแนะนำ ใน CDC แนะนำให้ยาแบบ starter pack คือให้ยาสักสามถึงสี่วันแล้วนัดมาประเมินซ้ำ ดูแลจิตใจซ้ำ ก็จะช่วยดูแลเรื่องความสม่ำเสมอได้ และถ้ารพ.ไม่ได้เก็บยาได้มากพอ ก็จะมีเวลาหายามาเพิ่มด้วย

9.อย่าลืมประเมินเรื่องการตั้งครรภ์ ส่วนผู้ถูกกระทำรุนแรงทางเพศต้องมีการให้ยาเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย หนองใน เชื้อคลามิเดีย เชื้อทริโคโมแนส ใช้ยาฉีด ceftriaxone 250 มิลลิกรัมหนึ่งครั้งเข้ากล้าม ยากิน azithromycin ขนาด 1 กรัม และยากิน metronidazole ขนาด 2 กรัม กินครั้งเดียว

10.ในกรณีเสี่ยงประจำและกินยา truvada ป้องกันเป็นประจำอยู่แล้ว (โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย) ก็ไม่ต้องทำตามแนวทางนี้ครับ   และถ้าต้องมาเข้ารับการรักษาแบบผิดพลาดบ่อยๆ ให้เปลี่ยนมาสอนวิธีควบคุมป้องกันที่ดี และ กินยาป้องกันในระยะยาวดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น