เอาล่ะไปกันต่อจากเมื่อวาน
1.วัคซีนโรคสุกใส ประเทศเรายังเป็นทางเลือก แต่ใน ACIP ให้ฉีดเลย ถ้าไม่เคยเป็นโรคมาก่อน หรือถ้าไม่รู้ให้ตรวจเลือดดูระดับภูมิคุ้มกันก่อน
2.วัคซีนงูสวัด เมื่ออายุเกิน 60 ฉีดหนึ่งครั้ง ACIP 2017 ให้ฉีดเลยแต่ในประเทศไทยก็เป็นทางเลือก เพราะการป้องกันการติดเชื้อทำได้ประมาณ 50% แต่สิ่งที่คาดหวังมากกว่าคือเป็นแล้วไม่รุนแรง หรือ ลดอาการปวดเส้นประสาทจากงูสวัดลงได้ดี ไม่ว่าคนนั้นจะเคยเป็นหรือเคยติดเชื้องูสวัดมาก่อนก็ตาม
3.วัคซีนตับอักเสบเอ ในประเทศไทยกับ ACIP แนะนำตรงกันคือ ควรมีความเสี่ยงโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบบี ได้รับเลือด กลุ่มชายรักชาย ในคนทร่เป็นโรคตับแข็งถ้าเป็นโรคตับอักเสบเออาจจะมีตับวายได้
เนื่องจากประเทศไทยเป็นแดนระบาดของตับอักเสบเอ และมักจะติดเชื้อกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ประเทศไทยจึงแนะนำตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบเอก่อนฉีด
4.ไข้กาฬหลังแอ่น (แบคทีเรีย Neiserria meningitides) สำหรับประเทศไทยแนะนำเฉพาะผู้ที่จะเข้าไปในแดนระบาดของไข้กาฬหลังแอ่น ที่เรียกว่า Meningitis Belt contries และผู้ที่จะเข้าไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดิอาระเบีย อันนี้ต้องมีหนังสือรับรองการฉีดก่อนเข้าประเทศ ส่วนใน ACIP แนะนำให้กับคนที่ต้องไปอยู่ในที่ชุมชนมากๆ..เขียนเลยว่าค่ายทหารและเข้าโรงเรียน ผู้ที่ไม่มีม้ามหรือตัดม้าม ซึ่งแยกเป็น serogroip A และ B การระบาดของไทยเป็น ซีโรกรุ๊ป บี ครับ..แต่วัคซีนในไทยไม่มีซีโรกรุ๊ป บี
5.วัคซีนกันการติดเชื้อฮีโมฟิลุส ในประเทศไทยไม่มีคำแนะนำอันนี้ ในเอกสารของ ACIP 2017 แนะนำในคนที่ไม่มีม้ามหรือตัดม้าม เป็นโรค sickle cell ที่พบน้อยมากในไทย หรือคนที่ต้องปลูกถ่ายอวัยวะ
ข้อห้ามเลย..คือห้ามให้วัคซีนตัวเป็น (เชื้อที่ทำให้อ่อนแรงลง) คือ MMR, งูสวัด และสุกใส กับคนท้อง คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ และผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำอยู่
ในเอกสารยังไม่มีวัคซีนไข้เลือดออกชนิดสี่สายพันธุ์ที่วางจำหน่ายในไม่กี่ประเทศในโลก หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยที่เป็นแดนระบาด วัคซีนไข้เลือดออกแนะนำในคนที่อายุ 9-45 ปี แต่การศึกษามีแค่ 2-16 ปี ต่ำกว่า 9 ปีนั้นผลไม่ดี นอนรพ.มากขึ้นด้วย ส่วนอายุเกิน 16 มาจากการศึกษาเรื่องความปลอดภัยและระดับภูมิคุ้มกัน ในประเทศที่ไม่มีการระบาด ไม่ได้เกิดจากการทดลองตรงๆ สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 50-60% แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรคไปได้ 80% ตัวภูมิคุ้มกันจะอยู่นานแค่ไหนยังไม่รู้เพราะวัคซีนออกมาแค่ 6 ปีเท่านั้น ต้องรอดูการศึกษาและการใช้ต่อไป
แม้ว่าผลการศึกษาที่ผ่านมาจะแสดงให้เห็นว่าการใช้วัคซีนป้องกัน มีประโยชน์มากกว่สไม่ให้ชัดเจน แต่ว่ามันไม่ 100% และบางชนิดยังมีราคาแพงมาก เช่นเคยเราคงไม่กางแผนภูมิแล้วจับเข็มไล่จิ้มฉีดวัคซีน คงต้องคุยกันเป็นรายๆไป และวัคซีนส่วนใหญ่ก็อยู่ได้หลายปี ค่อยๆฉีดสะสมไปก็ได้ ไม่ต้องฉีดทีเดียวเทหน้าตักหมดเลย ถ้าเอาค่าวัคซีนมาหารจำนวนวันแล้วสะสม จริงๆวันละไม่กี่บาทครับ เสียเงินซื้อกาแฟยังแพงกว่าเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น