01 กันยายน 2559

โรค ซิก้า ไวรัส

   ข่าวการระบาดของไวรัสซิกา กำลังเป็นประเด็นถกเถียงหน้าหนังสือพิมพ์ ในทีวี twitter ของ CDC และ JAMA ก็ได้ทวีตเรื่องซิกาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเริ่มมีรายงานผู้ป่วยมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ แต่ผมยังไม่เห็นประกาศการระบาดและระวังเหมือนกับสถานการณ์ MERsCoV  หรือ อีโบลานะครับ แค่รายงานผู้ป่วยเท่านั้น
  เรามาทบทวนเรื่องซิกาไวรัสอีกรอบ

   ไวรัสซิกา เป็น ไวรัสกลุ่มเดียวกับไวรัสไข้เลือดออก เดิมทีการติดต่อก็ผ่านทางยุงเช่นกันครับ แต่ปัจจุบันเราพบการติดต่อจากคนสู่คนแล้ว   เกือบๆ 80% ของผู้ติดเชื้อไม่มีอาการใดๆ  ส่วนที่เหลือที่มีอาการก็จะเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ตาแดงๆ ผื่นขึ้น อาการไม่เฉพาะเจาะจงเลยครับ ไม่ต่างจากไข้เลือดออก ไข้หวัด แต่อย่างใด บางทีก็ทำให้เราไม่ได้คิดถึงมันครับ  แถมเกือบทั้งหมดก็หายเองเสียด้วย

   การที่เราจะคิดถึงว่าเป็นซิกาหรือไม่ ก็คือมีอาการดังกล่าว ร่วมกับประวัติสัมผัสโรค คือเข้าไปในแดนระบาด ถูกยุงกัด หรือประวัติสัมผัสโรคแบบคนสู่คน คือ ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกและทางเพศสัมพันธ์  ตอนระบาดใหม่ๆข้อมูลการระบาดจากคนสู่คนยังไม่มาก ตัวผมเองยังเคยเขียนว่าไม่น่าเชื่ออยู่เลย
   ในเมื่อมันไม่รุนแรงแล้ว จะไปกังวลทำไม..ปัญหาหลักที่เรากังวลคือ ถ้าแม่ติดเชื้อไวรัสซิก้า ลูกจะเพิ่มโอกาสความผิดปกติหนึ่งอย่างคือ ศีรษะเล็ก microcephaly ยังไม่ทราบกลไกนะครับ แต่เพิ่มโอกาส   ส่วนว่าจะพิการทางสมองหรือสติปัญญาผิดปกติหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลครับ  อีกอย่างคือ การติดต่อจากคนสู่คน เรายังไม่รู้ว่าหลังจากติดเชื้อมาแล้ว เจ้าเชื้อซิกาจะยังคงอยู่ในช่องคลอดหรือน้ำอสุจิไปอีกนานแค่ไหน ดังนั้นจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ในคนที่เคยสัมผัสโรค ไปอีกนาน

  คำแนะนำของศูนย์ควบคุมโรคอเมริกาแนะนำว่า หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรเดินทางเข้าไปในแดนระบาดของซิกา และถ้าเดินทางเข้าไป เมื่อออกมาควรตรวจหาดารติดเชื้อไวรัสซิกาครับ  ชายที่เดินทางเข้าไปในแดนระบาดหากจะไปมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน ควรสวมถุงยางอนามัยครับ
  สำหรับคู่ที่เพิ่งเข้าไปในแดนระบาดของโรคให้ชลอการตั้งครรภ์ไปก่อนครับ อย่างน้อยก็เมื่มั่นใจว่าไม่ติดเชื้อกลับมาแน่นอน จึงตั้งครรภ์ครับ

   การป้องกันยุงกัด ใช้มุ้ง ใช้สารไล่แมลง ยังเป็นคำแนะนำที่ดีครับ เพราะยังไม่มีวัคซีน และ ยังไม่ทราบพยาธิกำเนิดและการติดต่ออย่างชัดเจนนักครับ กันไว้ดีกว่าแก้
  CDC และ WHO ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 18 สค นี้ ก็ยังประกาศการระบาดในประเทศอเมริกาใต้เป็นหลัก และกำลังรอข้อมูลหลังจบโอลิมปิกที่ริโอนี่แหละรับ ผมยังไม่เห็นว่า ไทยจะระบาดครับ

ข้อมูลจาก CDC,WHO,JAMA 2016,315(22)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น