05 สิงหาคม 2559

อ่านหนังสือ ชีวิตยืนยาวขึ้น

เป็นอย่างไรบ้างครับ สัปดาห์นี้เพจเรามีเรื่องราวทางวิชาการหนักพอควรเลยนะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่มีอาจารย์หลายๆท่าน รวมทั้งแฟนเพจหลายๆท่านเข้ามาให้ความรู้ วิเคราะห์และวิจารณ์ในเชิงสรรค์สร้างครับ ทำให้เกิดความรู้ต่อยอดสู่ผู้อ่านและผู้ป่วยครับ
   ถ้าใครตามเพจผมมาตลอดจะทราบว่าทุกครั้งที่ผมลงเรื่องหนักๆต่อเนื่องกัน ผมมักจะชดเชยเรื่องเบาๆให้เสมอครับ ชีวิตมีสองด้านนะครับให้สมบูรณ์

   ทุกๆเช้าผมจะมีอีเมล์เข้ามา เป็นอีเมล์วารสารที่สมัครสมาชิกเอาไว้ โดยทั่วไปผ่านตาทุกเรื่องแต่จะมีที่สะดุดที่เรียกว่า "จิ้มตา" ไม่กี่ฉบับ และก็มีฉบับนี้ ส่งมาจากจดหมายของ cleveland clinic เกี่ยวกับงานวิจัยอันหนึ่งของนักวิจัยมหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของโลก ตีพิมพ์ในวารสาร social science & medicine ฉบับเดือน กรกฎาคม ปี 2016 ผมไม่ได้สมัครวารสารนี้ครับ เลยเอาแต่บทคัดย่อมาเล่าให้ฟัง

   นักวิจัยกลุ่มนี้เขาได้ทำการศึกษาว่า ในผู้สูงวัยที่เกษียณอายุในอเมริกากลุ่มต่างๆ ว่าการอ่านหนังสือนั้นส่งผลให้ชีวิตยืนยาวขึ้นหรือไม่ ....เย้ย..คิดได้ไงเนี่ย เขาเทียบกับคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือ หรืออ่านจากสื่ออื่นๆที่ไม่ใช่หนังสือ..ตอนแรกผมก็ว่ามันจะทำได้จริงหรือ ลองติดตามต่อครับ
   เขาศึกษาจากคน 3635 คนที่สามารถติดตามประวัติการอ่านหนังสือได้ ว่าอ่านกันคนละมากน้อยเท่าใดและเอามาแบ่งกลุ่ม ติดตามไป 12 ปี ดูอัตราการมีชีวิตอยู่ แบบ survival outcome โดย cox proportional hazard ratio ..แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่าใช้สถิติทางการแพทย์ครับ คล้ายๆกับการวิจัยยาหรือการรักษา

   ผลปรากฎว่าในกลุ่มคนที่อ่านหนังสือ มีอัตราการมีชีวิตยืนยาวกว่ากลุ่มคนที่ไม่อ่านอย่างชัดเจน ความแตกต่างกันเกือบๆสองปี และผลโดยรวม คนอ่านหนังสือกับคนอ่านอย่างอื่นหรือไม่อ่านเลยนั้น คนอ่านหนังสือมีอัตราการมีชีวิตอยู่รอดมากกว่าถึง 20%  และแม้กระทั่งอ่านแค่วันละครึ่งชัวโมงก็ดีกว่าคนที่ไม่ได้อ่านอย่างชัดเจน และแม้จะทำการปรับผลตามเพศ อายุ ฐานะ ความรู้ โรคเดิม ภาวะสุขภาพแล้วก็ตาม ความจริงที่ว่าอ่านมากกว่าชีวิตยืนยาวกว่าก็ยังเป็นจริงอยู่

  เอาล่ะจริงอยู่ ผมยังไม่ได้อ่านฉบับเต็ม ไม่เห็นสถิติและผลที่ชัดเจน จะว่าเชื่อ 100% ก็คงเป็นไปไม่ได้และก็ไม่รู้ว่าอธิบายด้วยเหตุผลใด ทางบทคัดย่อเขาบอกว่าอาจจะเป็นสติปัญญาที่ดีขึ้นครับ  ...#แต่ผมเชื่อ#

     เล่ามาให้ท่านฟังทั้งหมด เพียงเพื่อจะบอกว่า หันมาอ่านหนังสือกันเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือจริงหรืออิเล็กทรอนิกส์ก็ตาม มันมีประโยชน์มากกว่า short messege ที่อาจได้ใจความไม่ครบ และขาดทักษะการอ่านไปหลายอย่าง แม้ปัจจุบันหนังสือจะราคาไม่ถูก แต่ถ้ามาคิดคูณกับคุณค่าผมว่าไม่แพงครับ ผมเจตนารีวิวหนังสือมือสองหลายครั้ง เพื่อให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงครับ มาเชียงใหม่ครั้งนี้ตั้งใจจะมาร้าน gekgo เพื่อรีวิวหนังสือมือสอง แต่ไปไม่ทันสักที เอาไว้เดือนหน้าจะไปใหม่ ไม่พลาดแน่ๆครับ
และอยากถามแฟนว่า หนังสือเล่มโปรดของท่าน เป็นเล่มไหน เล่ากันมาให้ฟังหน่อยครับ เล่ากันมากๆ แชร์กันมากๆ จะได้เป็นพื้นที่กระตุ้นการอ่านหนังสือครับ
..
...ให้ทายว่า ผมอ่านหนังสือเดือนละกี่เล่ม..ผมมี."Goal" ด้วยนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น