11 สิงหาคม 2559

อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน จริงๆแล้วก็เป็นอาหารที่ดีสำหรับคนที่ไม่เป็นเบาหวานเหมือนกันนะ หัวข้อนี้ผมคิดว่า ทุกท่านคงจะทราบดีส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ของแต่ละคน เมื่อวานนี้ได้หนังสือ “เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน” โดยกองทุนพัฒนาการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ของกองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผมว่ามีหลายเรื่องที่ง่าย น่าสนใจ และ ใช้ได้กับทุกคนจึงเอามาฝากกันครับ
…ข้อมูลจากในนี้ รวมกับที่ผมอาจจะขยายความเพื่อความเข้าใจนะครับ…

อย่างแรก ..พลังงานรวม พลังงานที่ว่านี้คือใช้ในกิจการสามัญของร่างกายครับ กิน นอน หายใจ ขับถ่าย หัวใจเต้น เดินเล็กน้อย ยืน ไม่นับรวมการออกกำลังกายครับ คิดง่ายๆคร่าวๆคือ (ส่วนสูง -100) × 30 คือเอาน้ำหนักตัวที่ควรจะเป็นคูณสามสิบครับ ไม่ใช่ว่าสูง 160 หนัก 90 กิโลกรัม เราควรกำหนดที่ (160-100)×30 = 1800 แต่ถ้าเราใช้ 90×30 จะได้ 2700 มากกว่าเกือบ 1000 กิโลแคลอรีครับ อย่างนี้ยิ่งกินยิ่งอ้วนนะครับ

อย่างที่สอง ชนิดอาหาร ที่ผิดพลาดบ่อยๆนะครับ
คาร์โบไฮเดรตหรือหมวดแป้ง ในผักผลไม้ก็มีนะครับ ผมยกตัวอย่างถั่ว ก็จะมีทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ข้าวโพด มัน อย่าลืมว่าผักพวกนี้ก็มีแป้งด้วย ถ้ากินผักกลุ่มนี้มากๆก็ต้องลดแป้งลง ข้าวที่กินเอาเป็นว่าสรุปเลยนะครับว่าควรใช้ข้าวไม่ขัดขาวหรือข้าวกล้องครับ เป็นคำแนะนำให้กินธัญพืช..อันนี้แนะนำทั้งโลกนะครับ มีไฟเบอร์มาก ดัชนีน้ำตาลไม่สูง ในเมืองไทยก็ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ส่วนเมล็ดแฟลกซ์ ถั่วเมล็ดแข็งต่างๆ ข้าวโอ๊ตนอกจากจะหายากและยังแพงด้วยนะครับ ข้างกล้องหุงสุกนี่แหละครับ ใช้เป็นข้าวต้มก็ได้นะครับ ประมาณ 7-8 ทัพพีต่อวัน
หมวดเนื้อสัตว์..กาดอกจันสามดอก ควรกินเนื้อปลาทะเลสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง ส่วนเนื้ออื่นๆ ก็ให้เลือกที่ไม่ติดมัน ไม่ติดหนังครับ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นปลาแซลมอนทุกมื้อนะครับ จนแย่เลย ปลาทูก็เยี่ยมแล้ว ..ข้อสำคัญอีกประการคือการเลี่ยง processed meat เช่น หมูยอ แหนม ไส้กรอก เนื้อกระป๋อง หมายถึงเนื้อที่ไปผ่านกรรมวิธีอุตสาหกรรม ก็จะลดค่าทางอาหารลงได้ไขมันและเกลือแถมมาอย่างมากมาย แต่ไม่นับรวมเนื้อสัตว์แช่แข็งนะครับ อันนี้คุณค่าทางอาหารยังมากอยู่ครับ กินโปรตีนเท่าน้ำหนักตัว แต่ใช้หน่วยกรัมนะครับ
หมวดไขมัน จริงๆแล้วในอาหารจะมีไขมันอยู่พอประมาณนะครับ ถ้าต้องการลดก็ให้งดอาหารผัดทอดก่อนเลย สองอย่างนี้ภาษาวัยรุ่นเรียก มันตัวพ่อ หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว คือไขมันสัตว์ทั้งหลายหรือดูง่ายๆไขมันอิ่มตัวมันจะเป็นไขหรือของแข็งที่อุณหภูมิปกติครับ เลี่ยงมันหมู มาร์การีน ..มาร์การีนนี่อยู่ในขนมเสียมากครับ..และน้ำมันมะพร้าว จริงอยู่น้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันที่ดีแต่ก็เป็นไขมันอิ่มตัวนะครับ แต่ถ้าปริมาณมากไปจะไม่ดี ใช้น้ำมันมะกอกแทน น้ำมันรำข้าวจะดีกว่าครับ

อย่างที่สาม ผักผลไม้ ใครอยากกินผัก..บุฟเฟ่ต์ผักใบได้เลยครับ กินไม่อั้น ก็สามารถใช้เป็นอาหารที่ช่วยไปพองในท้อง อิ่มนาน ส่วนผักที่เป็นฝัก เป็นผลให้ลดลงสักหน่อยนะ ส่วนผลไม้จริงๆก็กินได้ทุกอย่างนะครับ มื้อละหนึ่งส่วน ทุเรียนสักเม็ดนึงก็ยังได้ มังคุดสองสามลูก กล้วยน้ำว้าหนึ่งลูก อย่างนี้เป็นต้น แต่ที่พลาดส่วนมากจะนับหลักเป็น กิโลกรัม มากกว่าลูก หรือ ทุเรียนครึ่งลูกอย่างนี้จะเยอะนะครับ

อย่างที่สี่ นมและน้ำสลัด นม..ให้นมวัวจะดีกว่านะครับ และเท่าที่ผมเดินสำรวจดูนั้น นมที่น้ำนมโคมาก ส่วนผสมอื่นๆน้อย ราคาถูก คือ นมจากสหกรณ์โคนมราชบุรี แต่ก่อนเรียก สหกรณ์ไทย-เดนมาร์ก หรือนมวัวแดงนี่แหละครับ ความจริงแล้วกินยี่ห้อใดก็ได้ แต่ขอว่าเป็นนมพร่องมันเนยคือกล่องสีฟ้าๆครับ ถ้ากินนมวัวไม่ได้ให้ใช้นมถั่วเหลืองชนิดหวานน้อยนะครับ ส่วนนมเปรี้ยวไม่แนะนำนะครับ
น้ำสลัด อันนี้เจอจะจะ คนไข้จัดรายการอาหารมาให้ตรวจ มีเมนูสลัดผักใส่น้ำสลัดซีซ่าร์หนึ่งถ้วย !!! น้ำสลัดซีซ่าร์ถือเป็นน้ำสลัดที่พลังงานสูงที่สุดนะครับ หนึ่งช้อนโต๊ะได้ 68 กิโลแคลลอรี่ เท่าๆกับข้าวหนึ่งทัพพีเลย น้ำสลัดใส่สักช้อนสองช้อนก็พอนะครับ น้ำสลัดซีซ่าร์ อิตาเลี่ยน เทาซั่นไอส์แลนด์ สลัดครีม สลัดงาญี่ปุ่น พวกนี้ช้อนโต๊ะละประมาณ 55 กิโลแคลลอรี่ ถ้าอยากผอมนะครับแนะนำ น้ำสลัดฝรั่งเศส น้ำสลัดน้ำใส น้ำสลัดบัลเซมิก พวกนี้ช้อนโต๊ะละ 20 กิโลแคลลอรี่ครับ

อย่างที่ห้า added sugar เมื่อกี้กาดอกจันสามดอก อันนี้กาดอกจันทั้งโลกเลยครับ จะอ้วน จะเบาหวาน จะฉุ #ขึ้นกับประเด็นนี้เลย อ่านฉลากเลยครับ เครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ 8-12 ทั้งหลาย เอ้า..ตัวอย่าง หน่วยน้ำตาลเป็นช้อนชานะครับ โยเกิร์ตที่คิดว่ากินลดน้ำหนัก แต่ดันไปกินแบบที่รสผลไม้ ได้ไป 5.5 เครื่องดื่มชูกำลัง m-160 หรือ กระต่ายแดง เอาไป 7 น้ำลำไย โอเลี้ยง เอาไป 7.5 ชาเขียวพร้อมดื่มสารพัดรส ของโอจิมิ อีคิกัน เอาไป 18 พูดง่ายๆ กินน้ำตาลเอื๊อกๆนั่นเองครับ

สุดท้าย อันนี้กาดอกจันตลอดชีวิตไปเลย..อาหารเสริม หรือ functional food ไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้น ถ้าคุณกินอาหารถูกต้องครบถ้วน functional food จะไม่เหมาะกับคนไข้หรือผู้เป็นโรคนะครับ มันถูกออกแบบสำหรับคนปกติที่ไม่เป็นโรคและอยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น ผมเคยฟังเขาโฆษณานะครับ ดาราคนนั้นคนนี้กินแล้วหน้าใส หุ่นดี ต่อให้เขาไม่กินอาหารเสริมเขาก็หน้าใสครับ และต่อให้ผมกินจนหมดโรงงานหน้าผมก็ไม่มีทางเหมือนณเดชน์ไปได้เลย ซุปเป็ดสกัดตัวนี้ดีนะ คนที่สอบแพทย์ได้เขากินกันทั้งนั้น โถๆๆ พวกครีมพวกนั้น ให้ไปท่องหนังสือในป่าอัฟริกา กินอาหารป่า เขาก็สอบได้ครับ และเช่นกันให้เอาซุปเป็ดสกัดมาให้ผมดื่มจนหมดโกดัง ผมก็ไม่ได้ไบร์ทมากขึ้นจนเทียบเท่าหมอแล็บแพนด้าได้เลย ไม่..มี..ความ..จำ..เป็น..ใด..ใด นะครับ

ผมยกตัวอย่างมาแต่ด้านมืด ที่เราชอบเข้าใจผิด หรือเข้าใจถูกแต่เข้าข้างตัวเองครับ
ขอตัวไปกินข้าวขาหมูกะทิกับข้าวเหนียวทุเรียนกะทิสดก่อนนะครับ เดี๋ยวจะอืดหมด…ฟิ้วววว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น