วันนี้ได้เห็นประกาศโฆษณา
วัคซีนไข้หวัดใหญ่กันอย่างมาก ราคาก็ถูกลงมากกว่าตอนต้นปี
ทุกๆท่านคงได้รับข้อมูลนี้บ้าง มากบ้างน้อยบ้าง
ผมเองก็ไปเปิดดูแนวทางของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์
ก็มีประกาศเอาไว้นะครับว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น แนะนำให้ฉีดทุกปี
แล้วก็มีตัวเลขเล็กๆ เพื่ออ้างอิงและอธิบายตาราง
ก็ตามไปอ่านและค้นตามที่อ้างอิงนั้น และอยากจะสรุป หรือพูดอีกแบบก็
ไขข้อข้องใจดังนี้
ข้อแรกคือกลุ่มที่เสี่ยง
1. บุคคลที่อายุ
65 ปีขึ้นไป
2. บุคคลที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
(COPD)
รวมทั้งโรคหอบ หืด โรคหัวใจ
3. บุคคลที่ต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน
โรงพยาบาลอย่างน้อยปีละ 1
ครั้งจากโรคเรื้อรังต่อไปนี้ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด
หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
4. หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ในช่วงไตรมาสที่
2 และ 3
5. กลุ่มที่สามารถแพร่โรคไข้หวัดใหญ่ไปสู่กลุ่มเสี่ยงสูง
(บุคลากรทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการ
บุคคลที่พักอยู่ในบ้านเดียวกับประชากรที่มีความเสี่ยงสูง)
กลุ่มคนพวกนี้มีการศึกษาวิจัยมาแล้วว่าได้ประโยชน์จริง
การศึกษาในประเทศไทยส่วนมาก เป็นการติดตามกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็น
"ผู้สูงอายุ" นะครับ ดังนั้นถ้าท่าน ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกนี้
ท่านจะไม่ฉีด ก็ไม่ได้แย่นะครับ
ข้อสอง การฉีดวัคซีนจะลดความรุนแรงของโรค
ลดผลข้างเคียงจากโรค วงเล็บว่าถ้าคุณร่างกายไม่แย่นะครับ ถ้าร่างกายคุณไม่แข็งแรง
ก็อาจจะลดไม่ได้มาก และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ
ไม่ใช่คิดว่าฉันฉีดวัคซีนแล้ว เมื่อติดเชื้อก็แค่อมฮอลล์แก้ไอ จิบเหล้าฆ่าเชื้อ
อันนี้ก็..มันจะผิดนะครับ
ข้อสาม ไอ้ความดีงามต่างๆของวัคซีน
มันจะต้องฉีดต่อเนื่องกันทุกปีนะครับ จึงจะเห็นผล.. ไม่ใช่อยากฉีดปีนี้ก็ฉีด
ปีนี้ไม่ว่าง ติดถ่ายละคร เอาไว้ปีหน้านะ.. แบบนี้ไม่ได้ผลนะครับ
จะมาโทษวัคซีนไม่ได้
ข้อสุดท้าย อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ
ที่มันยังป้องกันได้ไม่ดี ก็เพราะทุกคนในประเทศไม่ได้วัคซีนครบทุกคน และ สม่ำเสมอ
อันนี้เป็นนโยบายระดับชาติครับ ผมคงปล่อยให้ผู้มีอำนาจเขาว่ากันไป
แล้วก็ที่โปรโมทกันมากๆ ตอนนี้นี่ก็เพราะว่า
อีกไม่นาน WHO ก็จะประกาศสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดปีหน้าออกมา
ต้องรีบใช้ให้หมดครับ สินค้าพวกนี้ ปีต่อปี หมดอายุเร็ว ค่าการตลาดต่ำครับ
ที่มา
"ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น