05 กรกฎาคม 2559

ไตอักเสบหลังจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ

หลายๆท่านคงยังจำได้กับบทสนทนาของมานีและวีระ ในตอนการเลือกใช้ยาฆ่าเชื้อในโรคติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ หนึ่งในข้อบ่งชี้การรักษาคือป้องกันการเกิดหน่วยไตอักเสบ เราจะมาดูว่า ไอ้เจ้าหน่วยไตอักเสบแบบนี้คืออะไร
  ก่อนอื่นขอปูพื้นฐานง่ายๆ ว่าไตของเราแบ่งออกได้หลายส่วน ส่วนการกรอง ส่วนท่อไต ส่วนเนื้อไตและหลอดเลือด ปัญหาของการติดเชื้อนี้อยู่ที่หน่วยการกรองของไตครับ ปกติแล้วหน่วยการกรองของไตจะมีรูเล็กๆคอยกรองสารต่างๆ ถ้าเป็นสารที่เกินจำเป็นก็จะดูดกลับที่ท่อไต แต่ถ้าไม่ใช่สารจำเป็นก็จะปล่อยทิ้งเป็นปัสสาวะ ที่หน่วยการกรองนั้นจะมีสารที่มีประจุไฟฟ้ามากมาย คอยจัดการกรองสารต่างๆ มีช่องทางเฉพาะสารต่างๆอีกมากมายที่เป็นช่องทางด่วนที่จะเจาะจงกับสารนั้นๆ ด้วยความที่มันมีหน่วยกรองหลายๆแบบปริมาณมากนี่เอง จึงเป็นจุดก่อโรคได้มากมายถ้ามีสารแปลกปลอมมาเกาะแล้วทำให้การทำงานบกพร่องไป

    เชื้อ streptococci ที่ทำให้เกิดคออักเสบ จะถูกร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาจับและกำจัดไป บังเอิญว่าบางสายพันธุ์ของ streptococci นี้ถือว่าเป็น nephritogenic strain ( M type 1,2,4,3,25,49,12) คือสามารถกระตุ้นการสร้างภูมิ และภูมินี้สามารถไปจับทำลายเซลผนังเม็ดเลือดที่ไตได้ ประมาณว่ามีลายนิ้วที่เหมือนๆกัน ตำรวจร่างกาย คือภูมิคุ้มกัน เลยยิงแหลกยิงเชื้อด้วย ยิงเซลที่ไตด้วย  เมื่อไปทำลายเซลที่หลอดเลือดฝอยของไต คราวนี้เลยกระตุ้นระบบต่างๆไปใหญ่เลยครับ เกิดการทำลายมากขึ้นๆ จนเกิดอาการขึ้นมา

   อาการที่พบก็ประมาณสองถึงหกสัปดาห์หลังคออักเสบติดเชื้อ #จะเริ่มมีอาการคลาสสิคของหน่วยไตอักเสบ (nephritic syndrome) บวมส่วนมากจะบวมทั่วๆตัว อาจเริ่มที่ส่วนต่ำของร่างกายก่อน บางคนมีอาการปวดหลังเพราะแคปซูลที่หุ้มไตเอาไว้มันก็บวม มีอาการปัสสาวะมีสีแดงก็อาจจะแดงมากแดงน้อยแดงจางต่างๆกัน ที่สมัยก่อนเรามักจะสอนว่าปัสสาวะสีน้ำล้างเนื้อครับ ถ้าเราเอาปัสสาวะไปตรวจก็จะพบเม็ดเลือดแดงบิดๆเบี้ยวๆหลุดออกมา รูปร่างคล้ายเจ้าหนูมิคกี้เม้าส์ที่เรียกว่า glomerular dysmorphic red cells และจะมีความดันโลหิตขึ้นสูง  แต่ถ้าอาการมากขึ้นหรือนานไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มมีไตเสื่อม ค่าซีรัม ครีอาตินีนจะเริ่มขยับขึ้นสูง  และเริ่มมีโปรตีนรั่วมาในปัสสาวะ

   ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาหลักฐานของการติดชื้อแบคทีเรีย streptococci ก็จะพบผลบวก (ASO titer positive , Anti DNAse positive) มีการใช้สารภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า คอมพลีเม้นต์ จนเกลี้ยง (low CH50, low C3) ส่วนมากยังไม่จำเป็นต้องเจาะตรวจเนื้อไตครับ ถ้าไม่ได้สงสัยโรคอื่นๆ
   การรักษาก็ให้ยาฆ่าเชื้อ penicillin การลดความดัน ลดบวม ในรายที่ไตวายเฉียบพลันอาจต้องฟอกเลือดชั่วคราวครับ  เมื่อประคับประคองอาการดี ก็มักจะหายได้เองใน 3-6 สัปดาห์ครับ ไม่ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันแต่อย่างใด การใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมและระยะเวลาถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตนี้ได้ครับ

โรคนี้ถือเป็นโรคต้นแบบของการเรียนเรื่อง ไตอักเสบเลยนะครับ น้องๆนักเรียนแพทย์และแพทย์ประจำบ้าน โรคนี้ถือว่า "ต้องรู้ ต้องเข้าใจ"
  ยังไม่นับติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ หรือแบคทีเรีย streptococci สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดแผลพุพองผิวหนัง ( M type 47,49,55,2,60,57) ก็สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตแบบนี้ได้เช่นกัน
   เรื่องราวทางการแพทย์ เด็ดดอกไม้สะเทือน ถึงดวงดาว เลยนะครับ

ที่มา harrison 19th
       nephrology board review 2013 สมาคมโรคไต
       Khon Kaen Hospital Medical Journal vol. 30 No. 2 May - August 2006

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น