03 มิถุนายน 2559

เกณฑ์การรักษาโรครูมาตอยด์

เกณฑ์ในการวินิจฉัยโรครูมาตอยด์

ข้ออักเสบรูมาตอยด์ หนึ่งในโรคที่สลับซับซ้อนที่สุด หนึ่งในโรคที่มีการศึกษาพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง การวินิจฉัยและการรักษาได้พัฒนาไปอย่างมากมาย แต่ปัญหาอมตะนิรันดร์กาลของโรคนี้คือ วินิจฉัยยากมาก
ตั้งแต่ปี 2010 ทางสมาคมโรคข้อของอเมริกาและยุโรป ได้สรุปเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรครูมาตอยด์ออกมาใหม่ เพื่อให้ง่ายและเป็นแนวทางเดียวกัน คือแนวทางเดิมใช้มาตั้งแต่ 1987 บางคนยังไม่เกิดเลยสมัยดีเอโก้ มาราโดน่าเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ใครจำได้ยกมือหน่อยครับ

เกณฑ์อันใหม่จะให้ความสำคัญกับอาการที่พบเป็นหลักนะครับ เราจะมาดูแบบชาวบ้านๆกันว่าเราก็วินิจฉัยโรครูมาตอยด์พอได้นะ แต่ก็อย่าลืมไปให้อายุรแพทย์ตรวจด้วยนะครับ
1. อย่างแรกเรื่องของจำนวนข้อที่เป็น เป็นสิ่งสำคัญมากครับ โรครูมาตอยด์นี้ยังคงลักษณะ เป็นข้อเล็กๆเช่นข้อนิ้ว โดยเฉพาะข้อต้นของนิ้วมือและมักจะเป็นสองข้างสมมาตรกัน ดังนั้นน้ำหนักของการวินิจฉัยก็จะอยู่ที่ข้อเล็กๆ จำนวนมากๆ ซึ่งก็คือข้อนิ้วสองข้างนั่นเอง
ถ้าปวดข้ออื่นๆ ก็เป็นได้นะครับแต่ว่า อาจเฉพาะเจาะจงน้อยลง โอกาสเป็นรูมาตอยด์ลดลง

2. ข้อที่เป็นต้องอักเสบนะครับ ไม่ใช่แค่เจ็บ อักเสบคือจะบวม กดดูจะหยุ่นๆ กดแรงๆแล้วเจ็บมากเจ็บหมดรอบข้อในทุกๆด้าน ขยับแทบไม่ได้

3. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์จะเฉพาะกับการอักเสบของเอ็นข้อมือ นิ้วมือ ที่ใช้งอข้อต่างๆเป็นอย่างมาก ดังนั้นอาการที่สำคัญของรูมาตอยด์คือมักจะติดขัดเจ็บเวลากำมือมากกว่าเหยียด และตอนเช้าๆข้องอจะอักเสบมากจนกระทั่งข้อติดตอนเช้า กว่าจะขยับนิ้วมือได้บางครั้ง..เป็นชั่วโมง

4. ระยะเวลาที่เป็น สมัยก่อนเราจะนับที่เกิน 12 สัปดาห์แต่ว่าในเกณฑ์ใหม่นี้แค่ 6 สัปดาห์ครับ เพราะว่าถ้าปล่อยข้ออักเสบไว้สามเดือน มันจะนานเกินไปครับ น่าจะมีการทำลายผิวข้อไปแล้ว วัตถุประสงค์ของการรักษาคือ ไม่ให้มีการทำลายผิวข้ออย่างถาวรดังนั้นจึงขยับเกณฑ์ของเวลามาเร็วขึ้น

5. เรื่องของผลเลือด สมัยก่อนเราตรวจหา สิ่งที่เรียกว่า Rheumatoid factor ในเลือดเป็นหนึ่งในการวินิจฉัย ต่อมาเราพบสารที่เฉพาะเจาะจงกับการวินิจฉัยมากกว่า มีความเฉพาะต่อโรคสูงมากถ้าผลเป็นบวก น่าจะเป็นโรคสูงมาก คือสาร Anti CCP ( cyclic citrullinated peptides)
เรามาใช้ anti CCP แทนแล้วครับ

6. ตรวจฟิล์มเอ็กซเรย์นั้น ไม่ได้เป็นเกณฑ์การวินิจฉัยแล้วนะครับ เพราะว่าถ้าพบการทำลายผิวข้อจากฟิล์มนั้น แสดงว่าโรคเป็นมานานแล้วและเกิดความเสียหายแล้ว แนวคิดการวินิจฉัยให้เร็วขึ้นจึงไม่ใช้ผลฟิล์มอีก..สมัยผมสอบนั้น รุ่นพี่ติวว่า ถ้าเห็นฟิล์มมือปกติมาออกสอบ ให้ตอบไปว่า รูมาตอยด์ระยะต้น..ถึงขั้นนั้นเลย

7. การตรวจหาสารบ่งชี้การอักเสบในตัว คือ ESR และ CRP นั้นใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวินิจฉัย แต่มันไม่เฉพาะเจาะจงกับโรครูมาตอยด์มาก เพียงแต่มันไวมากต่อการอักเสบ ถ้าค่าไม่สูงก็มีโอกาสอักเสบน้อยมากครับ เลือกเอาตัวใดตัวหนึ่งก็ได้

ครบดังนี้เราก็จะคิดถึงโรครูมาตอยด์ครับ และจะทำให้เราวินิจฉัยได้เร็วขึ้น ให้การรักษาได้เร็วขึ้นเพื่อป้องกันผลเสียต่อผิวข้อได้เร็วขึ้นมาก ลดอัตราการพิการลงได้มากเลยครับ
สำหรับเราๆท่านๆที่ไม่ได้เป็นหมอ ถ้าเราเริ่มมีอาการใน 4 ข้อแรกก็น่าสงสัยแล้วครับ โดยเฉพาะสุภาพสตรีจะมีโอกาสเกิดโรคมากกว่าชาย อายุน้อยๆนะมีโอกาสเกิดมากกว่าสูงวัยนะครับ ไม่มีอะไร 100% ในวิชาอายุรศาสตร์ครับ อย่างไรก็ต้องติดตามและให้อายุรแพทย์ได้ "คลำ" ข้อของท่านเสมอครับ

เกณฑ์ใหม่นี้สำหรับหมอทั้งหลายโดยเฉพาะที่เพิ่งออกสู่สมรภูมิรบของจริง ผมได้แคปเจอร์ภาพมาจาก Harrison Principle of Internal Medicine 19th เกณฑ์คะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขึ้นไปครับจึงจะวินิจฉัย โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้นะครับ และถ้าทำตามเกณฑ์ใหม่นี้ก็จะสามารถใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน ไปคำนวณ หาการดำเนินโรคที่เรียกว่า DAS-28 score ได้ด้วยนะครับ สามารถติดตามการรักษาได้พร้อมๆกันเลย (DAS-28 ให้ลองหาในแอปพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟนดูนะครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น