"หมอคนก่อนบอกว่า ผลเลือดมีการติดเชื้อไวรัส" ประโยคนี้สะเทือนใจผมมากครับ ดูใบที่เขายื่นมาให้ คือผลการตรวจนับเม็ดเลือด(complete blood count) แบบ automated CBC
การตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ หนึ่งในการตรวจที่เป็นพื้นฐานที่สุดของสาขาวิชาอายุรศาสตร์ ทุกท่านที่เจ็บป่วยเข้ารพ. ท่านที่พักรักษาในรพ. มักจะได้รับการตรวจเลือดนี้ทั้งสิ้น อดีตเป็นการตรวจนับเม็ดเลือดด้วยฝีมือและตา ปัจจุบันเป็นเครื่องตรวจนับทั้งสิ้น แต่คุณค่าของการตรวจ CBC มันประมาณค่าไม่ได้ครับ ถ้าเราใช้อย่างถูกต้อง
ปัจจุบันเราใช้เครื่องและน้ำยาสำเร็จรูปในการตรวจนับเม็ดเลือด ออกมาเป็นค่าต่างๆและกราฟสวยงาม ใช้เวลา 15 นาที แต่ทุกครั้งเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์จะนำเอาแผ่นสไลด์เลือดที่ย้อมด้วยมือมาส่องกล้องตรวจสอบทุกครั้งว่าค่าที่เครื่องอ่านนั้นมันตรงกับที่เป็นจริงหรือไม่ สาเหตุเพราะเครื่องมันถูกโปรแกรมมาให้นับเท่านั้น มันไม่มีสติพอที่จะตรวจสอบได้ ผมยกตัวอย่างเช่น เครื่องอาจตรวจนับเม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติ ในผู้ป่วยที่มีเม็ดเลือดแดงตัวอ่อนออกมา หรือ เครื่องอาจตรวจนับเกล็ดเลือดได้ต่ำเพราะเกล็ดเลือดมันเกาะกันเป็นก้อน เครื่องมันแยกไม่ออก จึงจำเป็นต้องใช้การดูด้วยตาครับ
ในอดีตนั้นหมอต้องเจาะเลือดคนไข้เพื่อนำมาหยดบนกระจกสไลด์ ไถให้บางๆเป็นฟิล์มสวยๆแล้วเอาไปย้อมสีเพื่อตรวจดูลักษณะของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด นับปริมาณเกล็ดเลือด ดูลักษณะของเม็ดเลือด รูปร่าง การติดสี การเกาะตัว เพื่อบ่งบอกโรคได้แม่นยำและสามารถคิดได้เลยว่า ฟิล์มเลือดที่เห็นมันเข้าได้กับอาการหรือไม่
มีการตรวจนับปริมาณเม็ดเลือดขาวโดยเอาอุปกรณ์ตรวจนับ น้ำยาละลายเม็ดเลือดแดง มาตรวจนับด้วยตาผ่านกล้องจุลทรรศน์ เอาเลือดมาใส่หลอดแล้วไปปั่นในเครื่องปั่นเพื่อนับแยกปริมาณเม็ดเลือดแดง การทำแบบนี้มีประโยชน์ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องและคิดไปพร้อมๆกันว่า ผลที่เห็นตรงกับโรคที่คิดจากอาการหรือไม่ หรือพบโรคใดๆเพิ่มเติม แต่ก็มีข้อเสียที่ช้ากว่าและอาจมีข้อผิดพลาดจากบุคคล ทักษะหรือเครื่องมือน้ำยาต่างๆได้
จะเห็นว่าการตรวจต่างๆมีข้อจำกัดทั้งสิ้นและต้องขึ้นอยู่กับประวัติที่ดี แล้วเอามาประกอบกับประวัติในการรักษาโรคครับ ไม่สามารถเจาะเลือด CBC เพียงอย่างเดียวแล้วบอกว่า ติดเชื้อนะ ติดเชื้อไวรัสนะ เป็นทาลัสซีเมียนะ เป็นไข้เลือดออกนะ และถ้ามีหมอคนไหนบอกท่านว่า ขอเวลาไปดูฟิล์มเลือดเพื่อประกอบผลการตรวจสักครู่ ท่านจงรอสักครู่เถอะครับแล้วดีใจว่า หมอของท่านนั้นมีความใส่ใจและรอบคอบในการดูแลท่านเป็นอย่างยิ่งครับ
เรื่องราวทั้งหมดได้รับการสอนสั่ง อบรม เคี่ยวเข็ญจากปรมาจารย์ที่ผมเคารพที่สุดท่านหนึ่ง อาจารย์แพทย์หญิง อนงค์ เพียรกิจกรรมครับ ขออุทิศความดี และกุศล จากบทความนี้ที่บอกทุกคนให้มีสติเวลา "รักษา" และเวลา "ไปรับการรักษา" ให้อาจารย์อนงค์ มีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นมิ่งขวัญกับอายุรแพทย์ตลอดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น