ไม่ใช่ผิวไหม้นะครับ โรคพวกนี้ร่างกายจะทำปฏิกิริยากับแสงอัลตร้าไวโอเลต หรือแสงที่เรามองเห็นก็ได้ เกิดเป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันที่ต้องรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ครับ ข้อมูลจาก Merck Manual
อย่างแรกคือเป็นโรคที่แสงแดดกระตุ้นให้เกิด ไม่นับว่าเป็นแพ้แสงตรงๆ เช่นโรค SLE โรคสะเก็ดเงิน โรคเลือดporphyria cutaneous tarda โรคพวกนี้แสงเป็นเหตุกระตุ้นอันหนึ่งเท่านั้น ไม่นับว่าแพ้แสงตรงๆ
โรคแพ้แสงแบ่งง่ายๆเป็นสองชนิด อย่างแรกคือ แพ้แสงแดดตรงๆเลย โดนไม่ได้โดนแล้วแสงจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันตัวเองให้ทำงานเกิดเป็นการอักเสบทั้งตัว คือจะเป็นผื่น วิงเวียน อาเจียน หลอดลมตีบ ความดันตก บางคนช็อกได้ จากปฏิกิริยาแพ้ชนิดที่ 1 ผ่านเซล mast cell ส่วนมากจะหายเองได้แต่เรื้อรัง ใช้ยาแก้แพ้ ทาครีมกันแดด โดยส่วนตัวผมคิดว่า แวมไพร์น่าจะเป็นโรคนี้นะครับ
อย่างที่สองคือแพ้แสงเหมือนกัน แต่ไม่ได้แพ้ตรงๆ ต้องมีสารเคมีที่ทำให้การดูดซับแสงและการคายพลังงานของแสงผิดไปแล้วไปกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช่นยาแก้สิว isotretinoin ยาฆ่าเชื้อ tetracyclines ยาเคมีบำบัด dacabazine ซึ่งจะเกิดได้สองลักษณะ
phototoxicity : จะเกิดเมื่อใช้สารเคมีดังกล่าว แล้วไปถูกแดดจะเกิดอาการคล้ายผิวไหม้ แต่ไม่ต้องนานนะครับ 2-3 นาทีได้เรื่องเลย มักจะจำกัดบริเวณอยู่ที่ๆถูกแดด
photoallergy : เกิดจากปฏิกิริยาแพ้ชนิดที่ 4 อย่างที่เราแพ้ยารุนแรงนั่นแหละครับ ถึงเมื่อแสงกระตุ้นการแพ้แล้วก็จะลุกลามไปทั่วร่างกาย บางครั้งก็มีความดันต่ำ หลอดลมตีบได้ครับ
การรักษานอกจากเอาสารเคมีต้นเหตุออก หลีกเลี่ยงแสงแดด และคงต้องใช้ยาแก้แพ้และสารสเตียรอยด์เพื่อยับยั้งปฏิกิริยาครับ และถ้าสงสัยเป็นโรคก็จะต้องทำ phototesting ใช้รังสีที่ความยาวคลื่นต่างๆ มาทดสอบปฏิกิริยาครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น