12 กันยายน 2558

การแปลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ


" หมอชุ่ย บอกคนไข้เป็นเอดส์ " พาดหัวข่าวประมาณนี้ ดังกันไปทั่ว ในฐานะที่อยู่ในวงการและเคยประสบเหตุแบบนี้มาแล้ว จะมาเล่าให้ฟังบ้างครับ

ผมเคยเจอทั้งคนที่สงสัยมากๆ ว่าจะเป็นเอดส์แต่ตรวจเลือดไม่เป็น และคนที่ไม่มีความเสี่ยงเลย แต่ผลตรวจเป็นบวก มันมีปรากฏการณ์แบบนี้ด้วยหรือ !! คำตอบคือ การใช้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งหลาย มันมีความไว และความจำเพาะ ของแต่ละการทดสอบ ซึ่งไม่เป็น 100% นะครับ อาจอยู่ที่ 95-99% หมายความว่ามันมีโอกาสผิดได้ ตามทฤษฎีแล้วถ้ามีโอกาสผิดได้ เมื่อทำการทดสอบซ้ำๆกันมากระดับหนึ่ง จะพบข้อผิดพลาดแน่นอน คล้ายๆกับท่านซื้อลอตเตอรี่ครับ โอกาสถูกเลขท้ายสองตัวที่ 1% ท่านสุ่มซื้อไปเรื่อยๆครับ ท่านจะถูกรางวัลแน่ๆ แต่จะกี่งวดนั้น บอกไม่ได้ครับ การทดสอบทางการแพทย์ก็เหมือนกัน

นอกจากนั้นก็ต้องใช้หลักการความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ มาคำนวณด้วยครับ อย่างนี้ครับ ตัวอย่างคนไข้ของผม เป็นหญิงที่มีโรคที่พบในผู้ป่วยเอดส์ เธอมีสามีมาสองคน สามีทั้งสองคนเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ แต่ผลการตรวจเอดส์บอกว่าเป็นลบ ท่านเชื่อผลไหมครับ อย่างในรายนี้ก็ต้องบอกว่าโอกาสที่คนไข้จะติดเชื้อนั้นสูงมาก ถ้าผลการตรวจเป็นลบแสดงว่าวิธีนี้ใช้กับคนไข้รายนี้ไม่ได้แล้ว ต้องใช้วิธีอื่นครับ ทำไมต้องใช้วิธีอื่นอีกน่ะหรือ ก็เพราะความน่าจะเป็นโรคมันสูงมากครับ ผลคือใช้วิธีอื่นแล้วผลเป็นบวกครับ

ท่านก็นึกในใจ อ้าว แล้วคุณหมอเชื่อได้อย่างไรว่าวิธีที่สองของคุณหมอมันถูกต้อง ก็เพราะว่าเรามีวิธีการคำนวณทางสถิติที่บอกว่า โอกาสเป็นโรคเท่าใด และถ้าใช้การทดสอบด้วยความจำเพาะขนาดนี้ สรุปแล้ว ผู้ป่วยจะเป็นโรคจริงๆกี่เปอร์เซนต์ และก็ยืนยันด้วยการตรวจวิธีที่สามด้วยครับ

ส่วนคนไข้อีกราย ตรวจก่อนผ่าตัด พบผลการตรวจเอดส์เป็นบวก ผู้ป่วยไม่มีประวัติเสี่ยงใดๆเลยนะครับ ก็เลยต้องตรวจยืนยันด้วยวิธีที่สอง ผลออกมาเป็น ลบ ก็คิดแบบเดียวกันครับ มีข้อผิดพลาดในการตรวจได้ และโอกาสที่เกิดโรคต่ำมาก ถ้าใช้การตรวจที่จำเพาะสูงๆ เมื่อผลเป็นลบนั้น เชื่อได้ว่าลบจริงครับ ผลบวกปลอมนั้นเกิดขึ้นได้ในหลายภาวะครับ เช่น เคยติดเชื้อวัณโรค ไวรัสเริม ตับอักเสบจากการดื่มเหล้า ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น ภูมิคุ้มกันในร่างกายเกินปกติ

หัวข้อนี้อ่านยากหน่อย แต่อยากอธิบายว่า จะบอกว่าคนๆหนึ่งเป็นโรคนั้น ไม่ได้ใช้แค่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเท่านั้นครับ ต้องคิดโอกาสการเกิดโรค ใช้วิธีตรวจที่ถูกต้อง จึงจะแปลผลที่ถูกต้องได้ครับ
ปัจจุบันการตรวจเอดส์นั้น มาถึงรุ่นที่ 4 แล้วนะครับ ประกอบด้วยการตรวจสองอันในการตรวจครั้งเดียว ความไวความจำเพาะมากกว่า 99 เปอร์เซนต์ และถ้าผลเป็นบวก จะมีการตรวจยืนยันด้วยวิธีอื่นเสมอครับ

ทุกข้อมูล ฟังหูไว้หู ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น