08 กรกฎาคม 2558

คำศัพท์ที่มักสับสน

คำศัพท์ที่มักสับสน

มานั่งอ่านเพจตัวเอง รู้สึกว่าสองวันมานี้เขียนไม่สนุกเท่าไร เครียดเกิน วันนี้จึงมาผ่อนคลายแฟนๆกับบ้าง ว่าด้วยเรื่อง "คำ" ที่สับสนเวลาคุยกับหมอ ด้วยความที่ผมเป็นอายุรแพทย์ ใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการตรวจคนไข้ ในการซักถาม บางครั้งคำตอบที่ได้ก็พาลเอางงๆๆเลยครับ ผมเลยเอาคำที่สับสนที่พบบ่อยๆ เท่าที่นึกได้มาอธิบายครับ

1. "น้ำท่วมปอด" หลายๆท่านเข้าใจว่าน้ำท่วมคือมีน้ำในช่องอกจนปอดจมน้ำ ที่จริงไม่ใช่ครับ คำว่าน้ำท่วมปอด จะใช้กับความหมายที่ว่า หัวใจห้องล่างซ้าย เกิดทำงานบกพร่องไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม ทำให้แรงดันย้อนกลับไปที่ปอด แรงดันสูงขึ้นๆ จนสารน้ำมันคั่งในปอด นั่นเอง โมเดลนี้เหมือนท่านเอาฟองน้ำแห้งมา 1 อันใส่แก้วขนาดพอดีกับฟองน้ำ น้ำท่วมปอด หรือหัวใจห้องซ้ายวายก็จะเหมือนค่อยๆ ใส่น้ำไปบนฟองน้ำจนพองเต็ม ฉ่ำเลย ส่วนท่านที่สับสนมักสับสนกับมีน้ำในเยื้อหุ้มปอด อันนี้จะเจาะระบายออกได้ครับ ส่วนน้ำท่วมปอดเจาะออกไม่ได้ครับ

2. "ยาแก้อักเสบ" จริงแล้วมันคือ กลุ่มยาลดปฏิกิริยา ปวดบวมร้อนของระบบอวัยวะครับ ทำให้การอักเสบลดลง เราก็ไม่ทรมานมาก แต่กระบวนการหายก็จะช้าลงนะครับ ท่านๆ มักจะเข้าใจผิดว่ามันคือยาฆ่าเชื้อ มีโมเดลอีกแล้ว เหมือนเรามีทหารกำลังรบกับข้าศึก ตอนรบย่อมมีปลอกกระสุน คราบเลือด ที่ดูรกหูรกตา การใช้ยาแก้อักเสบก็เหมือน ไม่ให้กระสุนไปรบ ครับ ก็ไม่มีปลอกกระสุน และคราบเลือดมารำคาญเรา เพราะเชื้อโรคหรือข้าศึกมันไม่ตายครับ ส่วนยาฆ่าเชื้อก็เหมือนขีปนาวุธที่หน่วยเหนือส่งมาช่วยครับ ฆ่าเชื้อโรคคือข้าศึกได้ดี แต่ก็ศพเกลื่อนกลาด คือเราจะรกหูรกตามาก( คือ ปฏิกิริยาการอักเสบจะมากขึ้นนั่นเอง) ตกลงเข้าใจหรือ งงมากขึ้นกันแน่ 555

3. "ประวัติครอบครัว" ในทางการแพทย์ประวัติครอบครัวหมายถึง โรคที่เกี่ยวข้องทางพันธุกรรม ในวงศาคณาญาติของเรา เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ไม่ได้หมายความถึง คู่แต่งงานของท่าน หรือคนที่อยู่ในบ้านเดียวกัน ที่ท่านๆมักคิดว่า ครอบครัว ก็ คนที่รักเรา อยู่กับเรา ซึ่ง ไม่ใช่นะครับ เช่นถามว่า มีใครในบ้านในครอบครัวเป็นโรคเลือดออกง่ายไหม ? อันนี้จะไม่นับไปถึง คู่แต่งงาน แฟน กิ๊ก คนครัว คนสวน แต่จะหมายถึงญาติสายตรงของท่านครับ

4. "ชา" ไม่ได้หมายถึง ชาจีน ชาเขียวมัทฉะ แต่อย่างใด แต่หมายถึง การไม่รู้สึกครับ เช่น มีน้ำร้อนมาถูกแขนกลับไม่รู้ว่าร้อน มีคนมาจับขาแต่ไม่รู้สึก เดินๆอยู่รองเท้าหลุดยังไม่รู้ตัว อาการเหล่านี้คือประสาทรับสัมผัสที่พิการไป ส่วนมากท่านจะใช้คำว่า "ชา" คือรู้สึกตึงๆซึ่งมักจะเป็นอาการบวม รู้สึกซ่าๆซึ่งคือการการเสียวแปลบ รู้สึกเชื่องช้า มึนชา ซึ่งมันคือ อ่อนแรงลง เวลาที่ท่านบอกหมดว่า "ชา" ครั้งต่อไปเล่าให้หมอฟังเลยครับ ว่ามันชาแบบไหน เป็นที่ใด ไม่งั้นวินิจฉัยผิด เข้ารกเข้าพงทั้งหมอและคนไข้

5. "เป็นลม" ส่วนมากที่ท่านอธิบายให้หมอฟัง มักจะเป็นอาการหวิวๆ ตัวเบาๆ โงนๆเงนๆ โซงโลงเซงเลง วิ่นๆเซงๆ เหมือนอาการ "มันต้องถอน"ของปอยฝ้าย มาลัยพร แต่จริงๆแล้วทางการแพทย์อาการเป็นลม (syncope) คือต้องหมดสติครับ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร จำตอนเกิดเหตุไม่ได้ ถ้ายืนหรือนั่งอยู่ก็จะวูบเหมือนปิดสวิตช์เลยครับ ทรุดทันที หน้ากระแทก หัวแตก อะไรประมาณนี้

ผ่อนคลายสบายสมองกันนะครับกับวันพุธ วันพระ แล้วครั้งต่อไปจะมาคุยเรื่องโรคกันใหม่ (เครียดอีกแล้ว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น